HEALTHCARE ยาและสุขภาพ

ต้อกระจก กับความเสื่อมสภาพของร่างกาย !!!!

June 21, 2016

ต้อกระจก กับความเสื่อมสภาพของร่างกาย !!!!

คนวัยกลางคนที่กำลังเข้าสู่วัยผู้สูงอายุต้นๆ อาจเริ่มเป็นกังวลเกี่ยวกับปัญหาสายตาที่พบอยู่ ทั้งตามองไม่ชัดในที่มีแสงสว่างจ้า เห็นภาพซ้อน หรือแสงไฟฟุ้งกระจายเป็นแฉกโดยเฉพาะตอนกลางคืน จนรบกวนการขับรถ หรือสังเกตเห็นดวงตามีฝ้าขาวบริเวณกลางรูม่านตา อาการเหล่านี้อาจเป็นต้อกระจกได้ค่ะ….

โรคต้อกระจก (Cataract) มักพบในกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป โรคนี้เกิดจากเลนส์แก้วตาขุ่นจากการเสื่อมสภาพ ทำให้ไปบดบังแสงที่จะผ่านเข้าไปในดวงตา ดังนั้นแสงจึงส่งผ่านไปยังจอรับภาพได้ไม่เต็มที่ ทำให้มองเห็นไม่ชัด เหมือนมีหมอกบัง แต่เมื่อมองแสงสว่างดวงตาจะพร่า และมองเห็นแสงกระจายรอบดวงไฟ

***โรคต้อกระจก หากผู้ป่วยไม่รักษาปล่อยให้อาการทิ้งไว้ ประมาณ 1 ปี แก้วตาจะขุ่นขาว และอาจทำให้มองไม่เห็นได้***

สาเหตุ และปัจจัยของโรคต้อกระจก

1. ภาวะเสื่อมตามวัยของผู้สูงอายุ

2. เป็นหัดเยอรมันแต่กำเนิด

3. ได้รับอุบัติเหตุ ตาถูกกระทบกระแทกอย่างรุนแรง

4. ใช้ยาหยอดตา/ทานยา ที่ผสมเสตียรอยด์นานๆ

5. โรคเบาหวาน

6. ทำงานกลางแจ้ง ตากระทบแสงแดดบ่อยๆ โดยไม่สวมแว่นกันแดด

7. การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เร่งการเกิดต้อกระจก

การรักษาทำได้อย่างไร?

โรคนี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด โดยการผ่าตัดจะเปลี่ยนใส่เลนส์แก้วตาเทียม แทนที่เลนส์แก้วตาเดิมที่ขุ่น (เสื่อมสภาพ) โดยปัจจุบันวิธีการผ่าตัดที่นิยม มี 2 แบบ ได้แก่

1. การสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Phacoemulsification)

2. การผ่าตัดต้อกระจก และฝังเลนส์เทียมโดยใช้เลเซอร์ (Femtosecond laser)

เราป้องกันโรคนี้ได้หรือไม่?

การป้องกันนั้นทำได้ยาก เพราะเกิดจากความเสื่อมตามวัยของเลนส์แก้วตา แต่เราสามารถชะลอความเสื่อมได้ เช่น เลี่ยงการสูบบุหรี่, ทานอาหารถูกสุขอนามัย และรับวิตามินที่เพียงพอ, ลดการโดนแสงแดด หรือสวมแว่นกันแดดที่กรองแสงUV เป็นต้น

อย่าลืมนะคะ การรักษาหมั่นดูแลถนอมดวงตาก็เป็นเรื่องสำคัญ พยายามลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ดวงตารวมถึงร่างกายเสื่อมสภาพ และสำคัญมากถ้าหากเรามีอาการส่อแววเป็นโรคต้อกระจก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที ยิ่งเร็วเท่าไหร่ดวงตาจะได้กลับมามองเห็นดีขึ้นเร็วๆ อีกครั้งค่ะ ^-^