HEALTHCARE ยาและสุขภาพ

ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก เสมหะมีเลือด เป็น “วัณโรค” หรือไม่??!!

June 27, 2016

ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก เสมหะมีเลือด เป็น “วัณโรค” หรือไม่??!!

วัณโรค (Tuberculosis) หรือโรคTB เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อMycobacterium Tuberculosis (AFB, acid fast bacilli) ซึ่งเชื้อนี้จะได้รับติดต่อเข้าสู่ร่างกายได้โดยผ่านทางเดินหายใจในรูปละอองเสมหะ และน้ำลาย ซึ่งออกมาจากการไอ จาม หรือการพูดคุย ของผู้ที่ป่วยเป็นวัณโรค

โดยเฉพาะถ้าอยู่ในสถานที่อับ อากาศไม่ถ่ายเท แสงแดดส่องไม่ถึง และถ้ามีเชื้อนี้อยู่ในอากาศ เมื่อเราหายใจเอาเชื้อวัณโรคเข้าไปจะทำให้มีโอกาศติดเชื้อได้

และการติดเชื้อวัณโรคไม่จำเป็นต้องเกิดที่ปอดเสมอไป อวัยวะอื่นก็สามารถติดเชื้อได้ เช่น ต่อมน้ำเหลือง สมอง และลำไส้ เป็นต้น

อย่าไรก็ตามเชื้อแบคทีเรียวัณโรคจะตายไปเมื่อโดนแสงอุลตร้าไวโอเล็ต (UV) และแสงแดด

อาการที่บ่งบอกว่าอาจเป็นวัณโรคปอดเข้าแล้ว…

  • ระยะเริ่มแรกเมื่อได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะยังไม่มีอาการใด ๆ แสดงออกมาให้เห็น และไม่พบความปิดปกติเมื่อเอกซเรย์ปอดเพราะโรคนี้เกิดขึ้นช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป คล้ายโรคเรื้อรังทั่วไป จนอาจไม่ทันรู้สึกตัวว่าเป็น ซึ่งช่วงนี้อาจนานเป็นปีถึงจะเริ่มเข้าสู่ระยะแสดงอาการของโรค
  • ระยะต่อมาถ้าไม่ได้รับการรักษา โรคจะรุนแรงมากขึ้น จะเริ่มมีอาการมีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหงื่อออกตอนกลางคืน เจ็บหน้าอก และที่เห็นได้ชัดเจน คือ เริ่มมีการไอเรื้อรัง นานเกินกว่า 3 สัปดาห์ขึ้นไป และการไออาจมีเสมหะที่เจือปนเลือดออกมาด้วย

วัณโรคหายขาดได้ต้องทานยาสม่ำเสมอ

การรักษาวัณโรคแบบรับประทานยาสามารถหายขาดจากวัณโรคได้ แต่ต้องทานยาสม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ถ้าทานๆ หยุดๆ ยา อาจเสี่ยงต่อการดื้อยา และทำให้ใช้เวลารักษานานขึ้น และยากมากขึ้น ซึ่งยาที่ใช้รักษาส่วนใหญ่เป็นยาปฏิชีวนะ ได้แก่

  • Isoniazid (ไอโซไนอะซิด)
  • Rifampicin (ไรแฟมปิซิน)
  • Ethambuthol (อีแธมบิวธอล)
  • Pyrazinamide (ไพราซินามาย)

ยาดังกล่าวจะเป็นสูตรยารักษา 6 เดือน โดยทานยาทั้ง 4 ตัว 2 เดือน ต่อด้วยยา isoniazid + Rifampicin อีก 4 เดือน

ผลข้างเคียงจากการทานยา เช่น มีผื่นขึ้น อาเจียน ปวดข้อ และตับอักเสบ เป็นต้น ซึ่งจะพบผลข้างเคียงจากยาได้ประมาณ 5%

**หมายเหตุ** ผู้ป่วยวัณโรคปอดที่ได้รับยาวัณโรค ส่วนใหญ่จะไม่แพร่เชื้อเมื่อทานยาเกิน 2 อาทิตย์ไปแล้ว

สรุปแล้ว เมื่อมีอาการเข้าข่ายเป็นวัณโรคตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค และรับการรักษาที่ถูกต้อง รวมถึงจะได้รับทราบแนวทางที่ควรปฏิบัติต่าง ๆ อย่าปล่อยไว้ให้โรครุนแรงมากขึ้น จนทำร้ายตัวเอง หรือแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว จะยิ่งทำให้โรคระบาดขึ้น และถ้ายังไม่ได้เป็นโรค หรือมีอาการเสี่ยงที่จะเป็น ควรดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงเพื่อให้มีภูมิต้านทานเชื้อโรค และควรที่จะหมั่นตรวจสุขภาพประจำทุกปีนะคะ