แมกนีเซียม สำคัญอย่างไร และบริโภคเท่าไหร่จึงเหมาะสม?
“แมกนีเซียม” มีความจำเป็นต่อระบบการเผาผลาญของแคลเซียม และวิตามินซี เช่นเดียวกับฟอสฟอรัส โซเดียม และโพแทสเซียม มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม มก. มีความจำเป็นต่อการทำงานของเส้นประสาท และกล้ามเนื้อ
มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน และช่วยคลายความเครียดได้ด้วย ส่วนคนที่ดื่มสุราเป็นประจำมักจะขาดแมกนีเซียม
ผู้ใหญ่ต้องการประมาณ 250–500 มก. ทุกวัน สำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร แนะนำ 300–355 มก. และร่างกายคนเรามีแมกนีเซียมอยู่ประมาณ 21 กรัม
ข้อดีต่อร่างกายของแมกนีเซียม
· ช่วยเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนเป็นพลังงาน
· ช่วยต่อสู้กับอาการซึมเศร้า
· ช่วยให้หลอดเลือดและหัวใจแข็งแรง และป้องกันหัวใจวายเฉียบพลัน
· ช่วยควบคุมระดับคอเรสเตอรอล
· ป้องกันกล้ามเนื้อหดเกร็ง
· ช่วยลดความรุนแรงของอาการเจ็บจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด Angina pain
· ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
· ช่วยให้ฟันแข็งแรง
· ช่วยป้องกันการสะสมของแคลเซียม นิ่วในไต และนิ่วในถุงน้ำดี
· บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย
· เมื่อรวมกับแคลเซียม ทำงานคล้ายเป็นยาสงบประสาทจากธรรมชาติ
แหล่งจากธรรมชาติ
ธัญพืชไม่ขัดสี มะเดื่อฝรั่ง อัลมอนด์ ถั่ว ผักสีเขียวเข้ม กล้วย เมล็ดธัญพืช อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์จากนม เป็นแหล่งอาหารที่มีแมกนีเซียมต่ำ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
แมกนีเซียม และแคลเซียมในปริมาณที่เท่า ๆ กัน เป็นรูปแบบที่ดีที่สุด มีจำหน่ายในรูปแบบวิตามินรวมและแร่ธาตุ หรือหาซื้อในรูปแบบแมกนีเซียมออกไซด์ 250 มก./เม็ด โดยทั่วไปมีจำหน่ายในขนาด 133.3 มก. และรับประทาน 4 เวลา ไม่ควรทานหลังอาหารทันที เพราะจะไปลดกรดในกระเพาะอาหารได้
อาการเป็นพิษหากทานมากเกินไป
หากรับประทานเป็นปริมาณมากในระยะเวลาที่นาน อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หากเราทานแคลเซียม และฟอสฟอรัสในปริมาณที่สูงด้วย หรือหากไตของเราทำงานได้ไม่ดี
ศัตรู
ยาขับปัสสาวะ แอลกอฮอล์
***ข้อควรระวัง***
หากคุณกำลังรับประมานยากลุ่มดิจิทัลลิส เพื่อรักษาโรคหัวใจ ยานี้จะเป็นอันตรายต่อร่างกายคุณได้ หากคุณมีภาวะขาดแมกนีเซียม และโพแทสเซียม และพึงระลึกไว้ว่ายาหลายตัวทำให้ร่างกายสูญเสียแมกนีเซียมได้ โดยเฉพาะแอมิโนไกลโคไซค์ ซิลพลาทิน คอร์ติโคสเตียรอยด์ ไซโคลสปอริน ยาขับปัสสาวะ ฟอสคาร์เน็ต เจ็นทาไมซิน และเพนทามิดีน