โพรไบโอติก คืออะไร ช่วยบำรุงสุขภาพอย่างไรได้บ้าง
พูดถึงโพรไบโอติก หลายๆ ท่านคงนึกถึงโยเกิร์ต หรือเรื่องการขับถ่ายเป็นอย่างแรก แต่จริงๆ แล้ว โพรไบโอติกมีประโยชน์ด้านสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกายเหล่านี้จะไปอาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา จัดการเจ้าแบคทีเรียที่ไม่ดีต่อร่างกาย ช่วยให้การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น และยังมีวิจัยว่าการที่ร่างกายเรามีแบคทีเรียที่ดีในลำไส้อยู่มาก จะลดความเสี่ยงของการเป็นโรคต่างๆ เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน โรคลำไส้รั่ว อาการแพ้ และอื่นๆ อีกมากมาย
แล้วร่างการของเราจะรับโพรไบโอติกได้จากทางไหนบ้าง?
1. โพรไบโอติกแบบอัดเม็ด
ในปัจจุบันมีโพรไบโอติกที่บรรจุจลินทรีย์เหล่านี้ไว้เป็นพันล้าน ถึงล้านล้านตัวในแคปซูล ซึ่งในแบบแคปซูลเหล่านี้ มักจะมีแบคทีเรียหลายสายพันธุ์ที่ร่างกายต้องการ สามารถทานได้ทุกวันเพื่อดูแลร่างกาย แนะนำให้ทานพร้อมกับอาหาร
2. โยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติก
อีกหนึ่งแหล่งโพรไบโอติกที่หาทานได้ง่าน บรรจุโพรไบโอติกที่ยังมีชีวิตอยู่มากมายเป็นอันดับต้นๆ ปัจจุบันในไทยก็มีโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียนดีเหล่านี้อยู่หลายแบรนด์ เราแนะนำว่า ควรเลือกโยเกิร์ตที่ไม่มีน้ำตาล และหากเป็นกรีกโยเกิร์ตได้ก็จะดีมากค่ะ
3. กิมจิ
ผักดองเกาหลีมีโพรไบโอติกด้วย! แฟนๆ อาหารเกาหลีคงจะดีใจ การทานกิมจิให้ได้แบคทีเรียดีไม่ควรนำไปปรุงด้วยความร้อนนะคะ ผักดองเหล่านี้ยังมีเอนไซม์ที่ดีต่อสุขภาพมากมาย ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารด้วยค่ะ
4. แอปเปิ้ล ไซเดอร์
นอกจากจะมีโพรไบโอติกแล้ว น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลนี้ยังช่วยควบคุมความดันโลหิต คอเลสเตอรอล ลดอาการเบาหวาน และช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วยค่ะ สามารถดื่มเพียวๆ ตอนเช้าได้เลย หรือว่าจะทำเป็นน้ำสลัดก็อร่อยไม่น้อย
5. มิโสะ
ใครชอบทานอาหารญี่ปุ่น คงได้ทานซุปมิโสะกันบ่อยๆ มิโสะทำมาจากการหมักถั่วเหลือง กับข้าวกล้อง ด้วยโคจิ ที่เป็นเชื้อราชนิดนึง เมื่อหมักแล้วจะเกิดแบคทีเรียที่ดีอยู่ในมิโสะมากมาย สามารถนำมาทำเป็นซุป นำมาทาบนขนมปัง หรือแครกเกอร์ก็ได้ค่ะ
รู้กันแบบนี้แล้ว อย่าลืมทานเจ้าแบคทีเรียที่แสนดีต่อร่างกายกันเยอะๆ นะคะ ^^*