คุณขาดวิตามิน K อยู่หรือเปล่า ?
ในผู้ใหญ่มักไม่ค่อยพบการขาดวิตามิน K มากนัก แต่หากขาดไปแล้วก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก มีงานวิจัยพบว่า หากขาดวิตามิน K อาจเพิ่มโอกาสการเป็นโรคหัวใจ หรืออาการหัวใจวายมากขึ้น การขาดวิตามิน K ยังเป็นอันตรายต่อผิว หัวใจ กระดูก และลำไส้อีกด้วย
การขาดวิตามิน K ส่วนใหญ่มาจากการที่เราทานอาหารที่มีวิตามิน K เข้าไปไม่มากพอ หรืออาจเป็นเพราะร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามิน K ได้ หรืออาจเป็นเพราะร่างกายไม่สามารถเก็บวิตามินไว้ได้มากเท่าปกติเนื่องจากเป็นโรคตับ
อาการของการขาดวิตามิน K
1. อาการเริ่มแรกของการขาดวิตามิน K คือ การที่มีเลือดออกมาก และช้ำเขียวง่าย เพราะมีอาการของการอุดตันของหลอดเลือด อาการของเลือดออกอาจเริ่มต้นจากการมีเลือดไหลทางเหงือก และเลือดกำเดาออกทางจมูก บางครั้งเลือดอาจจะออกมาจากแผลต่างๆ
2. มีอาการปวดประจำเดือนมาก และมีปริมาณเลือดประจำเดือนออกมากกว่าปกติ
3. มีอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจทำให้มีเลือดในปัสสาวะหรืออุจจาระได้
4. มวลกระดูกลดลง
วิตามิน K พบได้มากที่ไหน ?
อาหาร 10 ชนิดที่มีวิตามิน K สูงสุด ได้แก่
1. ผักใบเขียว เช่น คะน้า จำนวน 1 ถ้วย มีวิตามิน K : 444 มิลลิกรัม
2. นัทโตะ (ถั่วหมักญี่ปุ่น) 2 ออนซ์ มีวิตามิน K : 500 มิลลิกรัม
3. ต้นหอม ครึ่งถ้วย มีวิตามิน K : 103 มิลลิกรัม
4. กะหล่ำดาว ครึ่งถ้วย มีวิตามิน K : 78 มิลลิกรัม
5. กะหล่ำปลี ครึ่งถ้วย มีวิตามิน K : 82 มิลลิกรัม
6. บร็อกโคลี่ ครึ่งถ้วย มีวิตามิน K : 46 มิลลิกรัม
7. ผลิตภัณฑ์จากนม(หมัก) ครึ่งถ้วย มีวิตามิน K : 10 มิลลิกรัม
8. ลูกพรุน ครึ่งถ้วย มีวิตามิน K : 52 มิลลิกรัม
9. แตงกวา 1 ลูกขนาดกลาง มีวิตามิน K : 49 มิลลิกรัม
10. กระเพราแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ มีวิตามิน K : 36 มิลลิกรัม
หากกังวลว่าจะได้รับวิตามิน K ไม่มากพอในแต่ละวัน ก็สามารถรับประทานในรูปแบบวิตามินเสริมได้นะคะ ^^