ยาแอสไพริน กินอย่างไรให้ปลอดภัย
เป็นอีกหนึ่งในยาที่ถูกใช้กันมาอย่างแพร่หลายยาวนาน ด้วยประสิทธิภาพที่สามารถใช้ได้กับหลายโรค และให้ผลการรักษาที่ดี ถูกนำไปใช้รักษาในอาการและโรคหลากหลายตั้งแต่อาการไม่รุนแรง ไปจนถึงอาการรุนแรง ในยุคแรกๆ ของการค้นพบ แอสไพรินถูกนำมาใช้เพื่อลดไข้และบรรเทาอาการอักเสบ
ยาแอสไพรินมีฤทธิ์อย่างไรบ้าง?
ยาชนิดนี้มีประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาอาการอักเสบ ไม่ว่าจะเป็นอาการ ปวด บวม แดง ร้อน และยังช่วยลดไข้ได้ อีกทั้งยังช่วยออกฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด ใช้ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดสมองอุดตัน เส้นเลือดที่ขาอุดตัน หรือเส้นเลือดหัวใจอุดตัน
การใช้ยาแอสไพรินให้ถูกวิธี
1. ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวด ลดอาการอักเสบ และลดไข้
ใช้ยาขนาด 325 – 650 มิลลิกรัม เพื่อบรรเทาอาการปวดปานกลางถึงรุนแรง และขนาด 500 – 1000 มิลลิกรัม เพื่อลดไข้ รับประทานทุกๆ 4 – 6 ชั่วโมง
ลักษณะยาแอสไพรินจะมีขนาดใหญ่ และถูกเคลือบไว้ เพื่อให้ไปปล่อยตัวยาในลำไส้เล็ก ควรทานหลังอาหารทันที และหยุดใช้เมื่ออาการหมดไป
2. ใช้เพื่อบรรเทารักษาอาการภาวะหลอดเลือดอุดตัน
แพทย์ผู้ดูแลอาการจะแนะนำให้ผู้ป่วยเคี้ยวยาแอสไพรินขนาด 300 – 325 มิลลิกรัมในวันแรก เพื่อให้ระดับยามากพอที่จะยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด จากนั้นจะลดขนาดยาลงเป็นขนาดต่ำ คือ 81 มิลลิกรัม รับประทานทั้งเม็ดหลังอาหารทันทีตามปกติ และต้องทานไปอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
อย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อต้องการทานยา เพื่อความปลอดภัยและผลการรักษาที่สูงสุดนะคะ ^^