ยาคุมกำเนิด มือใหม่จะเริ่มใช้อย่างไรดี?
คุณผู้หญิง หรือสาวๆ หลายคนอาจกำลังคิดเริ่มทานยาคุมกำเนิดเป็นครั้งแรก แต่ยังกล้าๆ กลัวๆ รู้สึกอายที่จะเข้าไปสอบถามเภสัชกร วันนี้เราเลยนำข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด และการทานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดมาฝากกันค่ะ
ยาคุมกำเนิด มีกี่แบบ?
ยาคุมกำเนิดมีทั้งแบบ 21 เม็ด (พักระหว่างแผง 7 วัน) และ 28 เม็ด (กินเม็ดแป้ง 7 วัน ทำให้ไม่ต้องพักระหว่างแผง) ควรเริ่มทานเม็ดแรกช่วงที่ประจำเดือนมา 1 – 5 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์
ในตลาดมียาคุมกำเนิดอยู่ 2 ประเภท คือ
1. แบบฮอร์โมนเดี่ยว บรรจุฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้เกิดเมือกหนาบริเวณปากมดลูก ทำให้สเปิร์มเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก ทำให้ไข่ผ่านเข้าไปในท้องมากขึ้น และยังทำให้ผนังมดลูกบาง ทำให้ไข่ไม่ฝังตัวอีกด้วย
ผู้ที่ให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น ลิ่มเลือดอุดตัน ควรทานแบบฮอร์โมนเดี่ยว กับการได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น อาจส่งผลต่อการให้น้ำนม และกระทบต่อปัญหาสุขภาพ
ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว คือ เป็นฝ้า กระ (มักหายไปใน 2 – 3 เดือน) ประจำเดือนไม่ปกติ มาน้อยลง หรือบ่อยขึ้น อาจมีเลือดไหลก่อนถึงรอบประจำเดือน สิวอุดตัน ปวดหัวไมเกรน แรงขับทางเพศเพิ่มหรือลดลง เกิดซีสต์ถุงน้ำรังไข่ อารมณ์แปรปรวน
ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรใช้หากกำลังป่วย คลื่นเหียนอาเจียน หรือท้องร่วงรุนแรง และหากเข้ารับการรักษาทางสุขภาพอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหากต้องการทานยาคุมกำเนิด
2. แบบฮอร์โมนรวม ซึ่งบรรจุทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจนเตอโรนสังเคราะห์ ยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ในเพศหญิง สร้างเมือกบริเวณมดลูก และทำให้ผนังมดลูกบาง เพื่อให้การเข้าไปผสมของสเปิร์มยากขึ้น และไข่ฝังตัวที่ผนังมดลูกได้สำเร็จ
อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ น้ำหนักตัวเพิ่มหรือลด อารมณ์แปรปรวน ปวดบริเวณหน้าอก มีเลือดไหลก่อนรอบประจำเดือน ในบางรายอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตสูง หากมีอาการต่อเนื่องนานเกิน 2 – 3 เดือน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนยา หรือเปลี่ยนไปใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น
ข้อควรระวัง คือ หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปที่สูบบุหรี่ หรือกำลังเข้ารับการรักษาอื่นๆ ไม่ควรใช้ยานี้