แผลร้อนใน แผลในปาก แก้อย่างไร
โรคที่ทำให้หลายๆ คนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากได้เลยทีเดียว บางคนถึงกับน้ำหนักลดเพราะทานอาหารไม่ได้ โรคแผลร้อนใน หรือแผลในปาก เป็นโรคที่เกิดโดยไม่ทันตั้งตัว อาจจะเกิดจากเวลากัดปากตนเอง หรือเป็นแผลตอนแปรงฟัน หรืออาจจะเพราะเกิดขึ้นเอง เพราะปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น
- ช่วงที่มีความเครียดมากๆ ร่างกายเหนื่อยล้า มีความกังวล อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องส่วนตัว เรื่องที่ทำงาน หรือเรื่องเครียดทั่วๆ ไป ก็อาจกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้
- พักผ่อนไม่เพียงพอ ชอบนอนดึก นอนน้อย นอนไม่เป็นเวลา หรือนอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางคืนบ่อยๆ ก็ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า อาจกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้
- ดื่มน้ำน้อย ทำให้ร่างกายไม่ระบายความร้อน หรือทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ
- ทานอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนมากๆ ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสะสมภายใน เช่น ทานของเผ็ดร้อน เครื่องเทศจัดๆ ของทอดๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหวานมากๆ ทำให้เกิดภาวะ “ร้อนใน”
- ยาบางชนิด ก็ส่งผลให้เกิดแผลร้อนในได้ เช่น แอสไพริน ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาอะเลนโดรเนต (ยารักษาโรคกระดูกพรุน)
- ยาสีฟันมีความรุนแรงมาก มีสารซักฟอกประเภท SLS, SLEs ทำให้รุนแรงต่อช่องปากบางท่านได้ หรือบางท่านอาจจะแพ้น้ำยาบ้วนปากที่มีความรุนแรงสูง
- เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เริม หรือจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
- มีประจำเดือน ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดแผลร้อนในได้เช่นกัน
การรักษาแผลร้อนใน
ปกติแล้ว แผลร้อนใน หรือแผลในปากจะหายไปเองภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่บางครั้งแผลมีขนาดใหญ่ ทำให้เจ็บปวดมากขณะขยับปาก ทำให้เป็นอุปสรรคในการทานอาหาร วิธีการรักษาให้แผลร้อนในหายเร็วขึ้น ไม่มีอาการติดเชื้อเพิ่มเติม ทำได้ดังนี้ :
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือวันละ 2–3 ครั้ง โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชา กับน้ำเปล่า 1 แก้ว เพื่อเป็นการลดแบคทีเรีย ทำให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น
- งดใช้น้ำยาบ้วนปาก หรือยาสีฟันที่มีความรุนแรง ควรแปรงฟันด้วยความระมัดระวัง ไม่ไปกระแทกหรือเปิดแผลให้เป็นมากขึ้น
- อาจจะทายาชนิดป้ายสำหรับรักษาแผลร้อนในที่มีส่วนผสมของ triamcinolone acetonide 0.1% ทาวันละ 2–4 ครั้งจนกว่าจะหาย หากมีหลายแผล อาจจะใช้ชนิดแปะ หรือหากแผลมีความลึกอยู่ด้านใน อาจใช้ยาชนิดพ่นแทน
- หากมีอาการร้อนในเรื้อรัง ปรึกษาเภสัชกรเพื่อทานยาแก้ร้อนใน หรือปรึกษาแพทย์ เพราะอาการแผลร้อนในเรื้อรัง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ และกลายเป็นมะเร็งได้
- ระหว่างการรักษาควรทานอาหารรสอ่อน งดอาหารรสจัด และพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น