คุณเคยได้ยินคำว่า “โคลีน” หรือไม่????
เป็นหนึ่งในวิตามินบีรวม และเป็นหนึ่งในสารที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำงานร่วมกับอินอซิทอลในกระบวนการใช้ไขมันและคอเรสเตอรอลของร่างกาย
เป็นสารไม่กี่ตัวที่สามารถผ่านระบบกรองระหว่างเลือดและสมองซึ่งเป็นระบบที่ปกป้องสมองจากสารหลากหลายในอาหารที่เรารับประทานเข้าไป โคลีนจะตรงเข้าไปยังเซลล์สมองเพื่อผลิตสารเคมีที่ช่วยเรื่องความทรงจำ
ช่วยในการกระจายตัวของคอเรสเตอรอล ไม่ให้คอเรสเตอรอลเกาะที่ผลังเส้นเลือดแดงหรือผนังของถุงน้ำดี การใช้โคลีนในร่างกายขึ้นอยู่กับวิตามินบี 10 กรดโฟริก และกรดแอมิโนแอล-คาร์นิทีน
ข้อดีของโคลีนต่อร่างกาย
- ช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอล
- ช่วยในกระบวนการส่งกระแสประสาท โดยเฉพาะในสมองส่วนที่ทำหน้าที่ด้านความจำ
- ช่วยต่อสู้กับปัญหาความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
- ช่วยกำจัดสารพิษและยาที่ตกค้างในร่างการ โดยช่วยเสริมการทำงานของตับ
โรคจากการขาดโคลีน
อาจส่งผลให้เกิดโรคตับแข็งหรือไขมันสะสมที่ตับ ผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัว และอาจเกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์
แหล่งจากธรรมชาติของโคลีน
ไข่แดง เนื้อสัตว์ ปลา ผักใบเขียว ยีสต์ ตับวัว จมูกข้าวสาลี และปริมาณเล็กน้อยในเลซิทิน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
โคลีนจำหน่ายในรูปแบบของฟอสฟาทิดิลโคลีน หรือ ฟอสฟาทิดิลออินอทิซอล
ในเลซิทินแบบแคปซูลซึ่งทำจากถั่วเหลืองที่มีวางจำหน่ายจำนวน 6 แคปซูล มีอินอซิทอลและโคลีนอยู่อย่างละ 244 มก.
วิตามินบีรวมมีโคลีนและอินอซิทอลอยู่ 50 มก.โดยประมาณ
ขนาดที่แนะนำต่อวันโดยทั่วไปคือ 500–1,000 มก.ต่อวัน
ศัตรู
น้ำ กลุ่มยาซัลฟา ฮอร์โมนเอสโทรเจน กระบวนการแปรรูปอาหารและแอลกอฮอล์
คำแนะนำ
- รับประทานโคลีนร่วมกับวิตามินบีอื่น ๆ เสมอ
- หากคุณมีอาการตื่นตระหนกหรือตกใจบ่อย การรับประทานโคลีนให้มากอาจช่วยได้
- หากคุณรับประทานเลซิทินเสริม คุณอาจต้องการรับประทานแคลเซียมเสริมด้วย เพื่อให้ระดับของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกายสมดุลกันเนื่องจากโคลีนเพิ่มการดูดซึมของฟอสฟอรัส
- พยายามรับประทานอาหารที่มีโคลีนให้มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำ
- หากคุณดื่มสุราเป็นประจำอย่าลืมที่จะเสริมโคลีนให้ตับของคุณเพราะมันจำเป็นสำหรับการทำงานหนักของตับ