SMS Marketing by Arincare

ตอบโจทย์การดูแลคนไข้ พร้อมเพิ่มยอดขายไปพร้อมๆกัน ด้วยบริการ SMS MarketingSMS Result Sample

ในปัจจุบันผู้คนสามารถรับข้อมูลข่าวสาร หรือการแจ้งเตือนได้จากหลากหลายช่องทางผ่านสมาร์ทโฟนประจำตัว ไม่ว่าจะข้อความทางอีเมลล์ ข้อความแจ้งเตือนจากทาง LINE หรือข้อความตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่คุณรู้ไหมว่าผู้คนในปัจจุบันสามารถรับข้อมูลข่าวสารจาก SMS และมีการตอบสนองกลับมาได้มากที่สุด โดยจากข้อมูลทางสถิติของเว็บไซต์ omnisend พบว่า

“ 90% ของ SMS ที่ส่งไปจะถูกอ่านใน 3 นาทีแรก !! ”

เหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะ SMS เป็นข้อความสั้นๆ ทางดิจิตอลที่สามารถจัดส่งไปได้ทันที และจะไปปรากฎบนหน้าจอของผู้รับภายในไม่กี่วินาทีหลังส่งออกไป ซึ่งนอกจากจะขึ้นปรากฎบนหน้าจอแล้ว ยังมีการแจ้งเตือนจากตัวโทรศัพท์หรือสมาร์ทโฟนอีกด้วยว่ามีข้อความถูกส่งมาแล้ว แตกต่างจาก LINE หรือ E-mail ที่ถ้าผู้รับไม่ตั้งค่าแจ้งเตือนเอาไว้ ก็จะไม่แจ้งเตือนหรือปรากฎออกมาให้ผู้รับได้เห็นเลย กลับกัน SMS กลับเป็นระบบที่ถูกใช้งานสำหรับการสื่อสารทั่วไปน้อยลง ดังนั้นจึงเหมาะมากกว่าที่จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด สำหรับใช้กระตุ้นยอดขายในธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบัน

ทำไม SMS ถึงดีกว่า LINE หรือ E-Mail หรือ Facebook Messenger สำหรับการนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด ?

จากที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการสื่อสาร ก่อให้เกิดอุปกรณ์การสื่อสารที่สามารถใช้งานได้ง่าย ฟรี และรวดเร็วกว่าเทคโนโลยียุคก่อนออกมามากมาย โดยจากสถิติจาก LINE Thailand ที่อัพเดทล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 พบว่า ในไทยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือทั้งหมด 69 ล้านคน ซึ่งมีกว่า 65% ในนั้นที่ใช้ LINE เป็นอุปกรณ์ในการสื่อสาร (ประมาณ 45 ล้านบัญชี) ซึ่งทำให้ LINE กลายเป็นแอปพลิเคชั่นที่คนไทยใช้งานมากที่สุดต่อวัน โดยจะเฉลี่ยตกวันละ 63 นาที ซึ่งจากสถิติคนไทยใช้เวลากับสมาร์ทโฟนของตนเองมากถึง 216 นาทีต่อวัน

จากรายงาน Digital 2020 Global Digital Overview ซึ่งจัดทำโดย WeAreSocial x Hootsuite เผยข้อมูลพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของคนไทย พบว่าคนไทยใช้ Facebook มากเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยมีบัญชีทั้ง 47 ล้านบัญชี นั่นหมายความว่าในประเทศไทยอาจมีคนใช้งาน Facebook Messenger มากถึง 47 ล้านคน

ตามรายงานสถิติของ Radicati พบว่าทั่วโลกในปี 2019 มีการใช้งาน E-mail มากถึง 3.9 พันล้านคน มากกว่าบัญชีบนโซเชียลมีเดีย 400 ล้านคน คาดว่าเกิดการส่ง E-Mail วันละ 246.5 พันล้านฉบับ E-Mail ที่ถูกเปิดอ่านมากที่สุดคือพวกกีฬา การพักผ่อน และกิจกรรมต่างๆ โดยคิดเป็น 60% และต่ำสุดอยู่ที่ 38.2% ก็คือเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนและการศึกษา พบว่ามี 87% ของนักการตลาดที่ใช้ E-Mail ในการทำการตลาด  แต่มีเพียง 58% ที่ประสบความสำเร็จ

“ นักการตลาดที่ใช้ SMS ระบุ ลูกค้ากว่า 70% บอกว่า SMS เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจ ”

จากสถิติที่หยิบมาแชร์ทั้งหมด จะพบว่าโลกในปัจจุบัน ผู้คนใช้แอปหรือโซเชียลมีเดียในการติดต่อพูดคุยหรือสื่อสารกันเป็นหลัก นั่นทำให้ SMS กลายเป็นข้อความที่ดูโดดเด่นขึ้นมาทันที เพราะ SMS เป็นข้อความเฉพาะที่ผู้คนไม่ได้หยิบนำมาใช้งานเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เราสามารถจำแนกข้อดี หรือจุดเด่นของ SMS ที่แตกต่างจากแอปแชทหรืออุปกรณ์ส่งข้อความต่างๆ ได้ดังนี้

  1. SMS พิมม์ข้อความได้เพียง 160 ตัวอักษร ทำให้ข้อความบน SMS เป็นข้อความที่กระชับ สามารถอ่านและเข้าถึงได้โดยง่าย
  2. SMS จะปรากฎบนจอมือถือทันที และสามารถข้อความได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่เปิดข้อความมาอ่านทั้งหมดก็ตาม แตกต่างจาก E-Mail ที่จะต้องกดเข้าไปเปิดอ่าน ซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า
  3. SMS เป็นเทคโนโลยียุคเก่า ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน Gen Z ลงมาทั้งหมด เพราะผู้ใช้งานยุคนั้นคุ้นชินและเติบโตมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือก่อนสมาร์ทโฟน
  4. SMS เป็นสื่อข้อความหรือสิ่งที่โดดเด่น เพราะไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารเป็นหลัก เช่น LINE หรือ Facebook Messenger ทำให้ SMS ดูน่าสนใจ และโดดเด่นมากกว่า
  5. SMS เน้นใช้การส่งข้อความที่เร่งด่วน เหมาะแก่การใช้แจ้งการยืนยันรับสิทธิ์ ยืนยันการนัดหมาย หรือเปลี่ยนการนัดหมาย เหมาะสำหรับใช้กับอะไรที่เป็นทางการหรือสื่อทางการตลาด
  6. SMS สามารถส่งถึงผู้รับแน่นอน ขอแค่ผู้รับเปิดใช้งานเบอร์มือถือ ถึงแม้จะปิดเครื่อง หรือไม่ต่ออินเทอร์เน็ต SMS จะยังส่งไปถึงผู้รับและสามารถเปิดอ่านได้อยู่ดี

“ ร้านขายยา ” กับ “ SMS Marketing ”

ร้านขายยาถือเป็นอีกธุรกิจที่จำเป็นต้องใส่ใจกับผู้เข้ามาใช้บริการ เพราะสำหรับร้านขายยาแล้ว ลูกค้าไม่ใช่แค่เข้ามาซื้อยาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องให้ทั้งคำแนะและคำปรึกษาแก่ลูกค้า บางครั้งร้านยาก็ถือเปรียบเป็นด่านแรก หรือจุดคัดกรองแรกที่จะส่งลูกค้าหรือคนไข้ต่อไปยังโรงพยาบาล เมื่อปัจจุบันลูกค้าหลายๆ คนมีสิทธิเบิกค่ายา พวกเขาจึงเลือกที่จะไปใช้บริการจากโรงพยาบาลเป็นหลัก แต่เมื่อลูกค้าได้ยากลับมา ลูกค้าหลายคนกลับเลือกที่จะเข้ามาให้ร้านยาช่วยแนะนำวิธีทานยาต่างๆ ให้ เพราะที่โรงพยาบาลค่อนข้างมีเวลาที่จำกัด เภสัชกรที่โรงพยาบาลจำเป็นต้องดูแลคนไข้หลายคน จึงเป็นเรื่องยากที่จะแนะนำวิธีทานยาให้แก่คนไข้ทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน จากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าร้านยาไม่ใช่แค่ที่ขายยาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับให้คำปรึกษา และยังเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ต้องการไปโรงพยาบาล เพราะที่โรงพยาบาลคนเยอะ ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้เข้าตรวจหรือรับยา ดังนั้นหากร้านยาสามารถสร้าง “ความน่าเชื่อถือ” ในระดับที่ใกล้เคียงหรือเท่ากับโรงพยาบาลให้ลูกค้าเห็นได้ ลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการในร้านยาก็จะมีเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน

จากการศึกษาของ สปสช. พบว่าประชาชนกว่า 20% เมื่อมีอาการเจ็บป่วยจะเลือกเข้าร้านขายยาแทนการไปโรงพยาบาลหรือคลินิก (อ่านเพิ่มเติม) ศูนย์วิจัยกสิกร ได้เปิดเผยข้อมูลว่าร้านขายยาเป็นทางเลือกแรกของคนไข้กรณีเจ็บป่วยทั่วไปไม่รุนแรง ในสัดส่วนร้อยละ 32 ด้วยเหตุผลว่ามีความสะดวกรวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายไม่สูงนักเมื่อเทียบกับไปโรงพยาบาลเอกชน และไม่ต้องรอคิวพบแพทย์นานเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลรัฐ โดยจุดนี้หากทางร้านขายยาสามารถสร้างการบริการที่แสดงถึง “ความใส่ใจ” ออกมาให้ลูกค้ารู้สึกได้ ความอยากเข้ามาใช้บริการในร้านขายยาก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

“ ความน่าเชื่อถือ และ ความใส่ใจ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง ”

ซึ่ง SMS Marketing คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ที่จะช่วยให้ร้านขายยาแสดงความน่าเชื่อถือและความใส่ใจให้ออกมาเห็นรูปธรรมมากที่สุด ซึ่งทางร้านขายยาสามารถนำเอา SMS Marketing มาใช้งานได้ดังนี้

  • แจ้งสินค้าเข้าใหม่

ร้านขายยาไม่ใช่แค่ต้องรอให้ลูกค้าป่วย แล้วเดินเข้ามาเพื่อขอซื้อยาเพียงอย่างเดียว หากเรามีเครื่องมือการสื่อสารที่รวดเร็วอย่าง SMS เราจะสามารถแจ้งบอกกับลูกค้าได้ทันที เมื่อมีสินค้าเข้าใหม่บางอย่างที่กำลังเป็นที่สนใจในปัจจุบัน เช่น ยารักษาโรคต่างๆ ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน หรือใช้แจ้งเตือนสำหรับผู้ที่สั่งซื้อยาหรืออุปกรณ์ต่างๆ ไว้ก็ได้เช่นกัน เป็นการบริการอย่างหนึ่งที่เน้นมอบความใส่ใจให้แก่ลูกค้า แทนที่ลูกค้าจะต้องเดินเข้ามาสอบถามด้วยตนเอง

  • แจ้งการจัดกิจกรรมพิเศษ

ร้านขายยาในปัจจุบันไม่ใช่สถานที่สำหรับขายยาเพียงอย่างเดียว เพราะในปัจจุบันร้านขายยาหลายๆ มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ทางสุขภาพสำหรับคนไข้ในชุมชน นั่นทำให้การส่ง SMS สามารถแจ้งเตือน หรือบอกแก่ลูกค้าได้ทั้งหมด ว่ากำลังจะมีงานหรือกิจกรรมอะไรเกิดขึ้น โดยทุกร้านมีอุปกรณ์สำหรับตรวจวัดพวกความดัน บางร้านมีการทำกิจกรรมร่วมกันกับบริษัทที่ให้บริการตรวจสุขภาพ เช่น ตรวจวัดมวลกระดูก การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือกลายเป็นสิ่งที่บอกต่อกันได้ง่ายยิ่งขึ้น

  • แจ้งข่าวสารทันเหตุการณ์

การแชร์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนหรือผู้คน ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความใส่ใจที่แสดงออกมาเป็นรูปธรรมได้ชัดเจนที่สุด อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ว่าร้านขายยาเปรียบเสมือนด่านแรกของผู้ให้บริการทางสุขภาพ ที่จะคอยกระจายข่าวที่ถูกต้องและทันท่วงทีให้แก่ผู้คน

  • แจ้งเตือนการทานยา

จะดีแค่ไหนถ้าลูกค้าหรือคนไข้ที่เข้ามาซื้อยากับร้านขายยาของเราแล้วเขารู้สึกประทับใจ เมื่อมีการแจ้งเตือนบอกเขาอย่างใส่ใจว่าถึงเวลาที่คุณลูกค้าต้องรับประทานยาแล้ว ด้วยความวุ่นวายและการดำเนินชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ละเลยความใส่ใจในตัวเองมากขึ้น ดังนั้นคงจะดีกว่าถ้าเรากลายเป็นสิ่งสิ่งหนึ่งที่จะคอยใส่ใจพวกเขาแทนตนเอง ซึ่ง SMS Marketing จะสามารถโจมโจทย์การใช้งานในส่วนนี้ได้มาก

  • แจ้งโปรโมชั่นอาหารเสริมหรือของใช้ต่าง

ปัจจุบันในร้านขายยาไม่ได้มียาขายเพียงอย่างเดียว ในร้านยังประกอบไปด้วยอาหารเสริมและอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย ซึ่งทางร้านสามารถหยิบมาทำเป็นโปรโมชั่นส่งเสริมการขายได้ โดย SMS Marketing จะกลายเป็นบทบาทหนึ่งที่จะใช้สำหรับโปรโมทโปรโมชั่นออกไปได้อย่างตรงจุด หรือตรงกลุ่มความต้องการของลูกค้าพอดี

บริการ SMS Marketing บนแพลตฟอร์ม ARINCARE e-Pharmacy Platform

บน ARINCARE e-Pharmacy Platform มีฟีเจอร์ SMS – Service ให้บริการอยู่ด้วย โดยเมื่อคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการในร้านได้ทำการลงทะเบียนประวัติคนไข้เป็นที่เรียบร้อย เราสามารถใช้ระบบ SMS – Service ในการจัดส่ง SMS ไปหาคนไข้ที่ต้องการได้ง่าย โดยสามารถทำงานให้แล้วจบได้ภายในคลิกเดียว มาพร้อมระบบที่ช่วยให้เราส่ง SMS ไปหาลูกค้าได้ในจำนวนมากพร้อมๆ กัน ประหยัดทั้งเวลา และสะดวกต่อการจัดการ ช่วยเพิ่มเวลาให้เราไปจัดการงานเรื่องอื่นๆ ในร้านได้มากชึ้น

ค่าบริการที่ย่อมเยาว์

บริการ SMS – Service เป็นบริการแบบที่ต้องซื้อเพิ่ม และสามารถซื้อผ่านทางตัวแพลตฟอร์ม ARINCARE e-Pharmacy Platform ได้โดยตรง โดยจะมีให้เลือกซื้อทั้งหมด 2 แพ็คเกจดังนี้

  1. แบบ 500 SMS – ราคา 500 บาท
  2. แบบ 1200 SMS – ราคา 1,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจ

คุณสามารถเข้าไปดูข้อมูลตัวแพลตฟอร์มทั้งหมด รวมไปถึงสมัครสมาชิกได้ที่เว็บไซต์ : http://www.arincare.com/

ช่องทางการติดต่อ