ตรวจเช็คมะเร็งเต้านมด้วยตนเองกันเถอะ

http://www.alltohealth.com/11143-2/ การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง เป็นวิธีการป้องกันมะเร็งเต้านมอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะสามารถทำได้บ่อย ๆ เพื่อคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเต้านมตนเองอยู่เสมอ ๆ หากตรวจพบก้อนเนื้อหรือสิ่งปกติใด จะได้นำไปสู่การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เนื้อร้ายเติบโตลุกลามจนยากแก่การรักษา ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ต้องรู้จักการตรวจเต้านมของตนเองเป็นประจำทุกเดือน โดยทำหลังจากหมดประจำเดือนไปแล้ว 3–7 วัน ไม่แนะนำให้คลำตรวจในช่วงเวลามีประจำเดือน เพราะเต้านมมีอาการคัดตึงอยู่แล้วอาจทำให้เข้าใจผิดผลาดกันได้ ส่วนผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนไปแล้ว ควรกำหนดวันให้แน่นอนในทุก ๆ เดือน เพื่อง่ายต่อการจดจำและบันทึกความเปลี่ยนแปลงหากพบก้อนเนื้อ ว่ามีรูปร่าง ลักษณะและขนาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างในแต่ละเดือน http://www.natureshop.in.th/รอบรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านม วิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ให้ยืดนิ้วชี้...

“เรื่องสิวๆ” ที่ไม่สิว ๆ !!!

http://www.mathcadworld.com/acne-no-more-when-to-see-a-dermatologist/ รู้หรือไม่?…สิวเกิดจากอะไร? สิว (Acne) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง พบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น เกิดจากเซลล์ผิวหนังบริเวณรูขุมขนมีการแบ่งตัว และหลุดลอกผิดปกติ หรือต่อมไขมันมีการหลั่งไขมันมาก ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวอุดตัน (Comedone) ซึ่งถ้าหากมีการติดเชื้อแบคทีเรียจะทำให้สิวอักเสบ หรือเป็นหนองขึ้นได้ http://women.mthai.com/beauty/health/19735.html ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวขึ้นมา 1. กรรมพันธุ์ 2. การสร้าง และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน Androgen ในร่างกาย ทำให้ต่อมไขมันมีการผลิตไขมันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนวัย 11–14 ปี จะพบสิวมาก เพราะฮอร์โมนเริ่มสร้างในช่วงนี้ 3. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงที่ผู้หญิงมีประจำเดือน 4. การใช้เครื่องสำอางบางอย่างที่มีไขมันสูง เช่น ครีมบำรุงผิว...

(6) ข้อแนะนำการใช้ยาทารักษาสิว & (7) วิธีป้องกันการเกิดสิว!!!

http://dodeden.com/147363.html จากบทความในตอนที่แล้วได้เขียนไว้เกี่ยวกับ “เรื่องสิวๆ” ที่ไม่สิว ๆ !!! กันไปแล้ว ตอนนี้มาทราบข้อแนะนำในการใข้ยารักษาสิว และการป้องกันสิวกันดีกว่าค่ะ เพราะถ้าหากเรายังปฏิบัติตัว ใช้ชีวิตประจำวันที่เสี่ยงกระตุ้นให้สิวเกิด รักษาอย่างไรสิวก็ยากที่จะหายไปจากบนใบหน้าเรานะคะ http://www.physiogel.com/th/our-products/face.html ข้อแนะนำการใช้ยาทารักษาสิว 1.หลีกเลี่ยงการทาบริเวณที่ผิวอ่อน เข่น ขอบตา ข้างจมูก หรือมุมปาก 2. เมื่อล้างหน้าเสร็จอย่าพึ่งทายาทันที ควรรอ 20–30 นาที ให้ผิวแห้งก่อน จะช่วยลดการระคายเคืองจากยาได้ 3. ใช้ยาปริมาณเล็กน้อยทาทั่วบริเวณที่เป็นสิว 4. อาจทายาเพียง 30 นาที — 1 ชั่วโมง...

ค่าSPF และค่าPA ในครีมกันแดด คืออะไรกัน ?!!!!

รู้ไหมว่า…เราควรเลือกซื้อครีมกันแดดที่ระบุทั้งค่าSPF และค่าPA เพราะแสดงว่าสามารถป้องกันรังสีUVได้ทั้ง 2 ประเภท ค่า SPF บอกประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVB http://www.bananaboatlover.com ค่าPA บอกระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVA ค่า PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ PA+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA PA++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง PA+++...

ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก เสมหะมีเลือด เป็น “วัณโรค” หรือไม่??!!

วัณโรค (Tuberculosis) หรือโรคTB เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อMycobacterium Tuberculosis (AFB, acid fast bacilli) ซึ่งเชื้อนี้จะได้รับติดต่อเข้าสู่ร่างกายได้โดยผ่านทางเดินหายใจในรูปละอองเสมหะ และน้ำลาย ซึ่งออกมาจากการไอ จาม หรือการพูดคุย ของผู้ที่ป่วยเป็นวัณโรค โดยเฉพาะถ้าอยู่ในสถานที่อับ อากาศไม่ถ่ายเท แสงแดดส่องไม่ถึง และถ้ามีเชื้อนี้อยู่ในอากาศ เมื่อเราหายใจเอาเชื้อวัณโรคเข้าไปจะทำให้มีโอกาศติดเชื้อได้ และการติดเชื้อวัณโรคไม่จำเป็นต้องเกิดที่ปอดเสมอไป อวัยวะอื่นก็สามารถติดเชื้อได้ เช่น ต่อมน้ำเหลือง สมอง และลำไส้ เป็นต้น อย่าไรก็ตามเชื้อแบคทีเรียวัณโรคจะตายไปเมื่อโดนแสงอุลตร้าไวโอเล็ต...

กว่าจะมาเป็นเบาหวาน !!!!

เบาหวาน เป็นความผิดปกติของร่างกายอย่างหนึ่ง ที่ตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินตามที่ร่ายกายต้องการได้เพียงพอ หรืออาจจะสร้างอินซูลินไม่ได้เลย ทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ฮอร์โมนอินซูลิน ทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเปลี่ยนเป็นพลังงาน สร้างสมดุลของน้ำตาลในเลือด โดยนำน้ำตาลกลูโคสที่เป็นคาร์โบไฮเดรตหน่วยเล็กที่สุดเข้าไปเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/image/insulin_glucose_absorp.jpg เมื่อผู้ป่วยเบาหวานมีฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอต่อการควบคุมระดับกลูโคสในกระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่ตลอดเวลา ไตจึงเข้ามาทำหน้าที่กรองน้ำตาลที่สูงเกินไปทิ้งออกมาพร้อมกับปัสสาวะ จึงเป็นที่มาของ “เบาหวาน” (เบา = ถ่ายเบา, ถ่ายปัสสาวะ) สาเหตุของเบาหวาน พันธุกรรม คือสาเหตุหลักของโรคเบาหวาน โรคติดต่อทางพันธุกรรมที่ส่งต่อจากพ่อแม่สู่ลูกหลาน นิสัยอาหารการกินรสหวานจัดตลอดทั้งวัน โรคอ้วน ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด...

เบาหวาน!!! ต้นเหตุของโรคแทรกซ้อนร้ายแรงอีกหลายโรค!!!

อาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานหลายปี จะทำให้เกิดความเสื่อมโทรมในทุกระบบของร่างกาย เซลล์ เนื้อเยื่อทุกชนิดในร่างกายจะมีอายุสั้นลง ผนังเซลล์ไม่แข็งแรง ร่างกายเสื่อมก่อนวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผนังหลอดเลือด เบาหวานจึงกลายเป็นโรคต้นเหตุของโรคแทรกซ้อนร้ายแรงอีกหลายโรค หลอดเลือดอุดตัน คือ ผนังภายในของหลอดเลือดทั่วทั้งร่างกาย แข็งกระด่าง ไม่อ่อนนุ่ม ไม่ยืดหยุ่น เสื่อมสภาพ ทำให้คลอเรสเตอรอลชนิดเลวที่อยู่ในกระแสเลือดทำปฏิกิริยารวมตัวกับออกซิเจนกลายเป็นแผ่นไขมันเกาะที่ผนังภายในหลอดเลือดได้ง่าย เมื่อสะสมนานเข้าจะทำให้หลอดเลือดมีขนาดตีบลง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จนนำไปสู่อาการความดันสูง และโรคหัวใจต่อไป http://siriratnurse.blogspot.com/ โรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะหลอดเลือดทั่วร่างกายตีบลง ทำให้ส่งเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เต็มที่ โดยเฉพาะส่วนปลายของหลอดเลือดฝอย ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนขาดเลือด หลอดเลือดสมอง มีสาเหตุเช่นเดียวกับอาการหลอดเลือดหัวใจอุดตัน...

แบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่า “ท้องผูก” ?!!!!

http://safetravels.ro/afectiuni/giardiaza-lambliaza/ ท้องผูกปัญหาที่หลายๆ คนต้องทุกข์ทรมาน และรบกวนชีวิตประจำวัน ดังนั้นเรามีข้อมูลดี ๆ ในการรักษา และแนวทางในการดูแลตนเอง รวมถึงอาหารที่เหมาะกับอาการท้องผูกมาฝาก ตามไปอ่านกันเลยค่ะ… อาการท้องผูก (Constipation) คือ อาการผิดปกติในการขับถ่าย ถ่ายน้อยผิดปกติ ประมาณน้อยกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์ ถ่ายอุจจาระลำบาก เจ็บปวดจากการต้องเบ่งแรงๆ อาจรู้สึกถ่ายไม่หมด อุจจาระมีลักษณะแห้ง แข็ง เป็นก้อนเล็กก้อนน้อยคล้ายขี้แพะ ท้องผูกเกิดจากอะไร? 1. พฤติกรรมไม่เหมาะสมบางอย่าง เช่น การอั้นอุจจาระเป็นประจำส่งผลให้ระบบขับถ่ายผิดปกติ,...

8 แนวทาง…ห่างไกลท้องผูก!!!!

อาการท้องผูก (Constipation) คือ อาการผิดปกติในการขับถ่าย ถ่ายน้อยผิดปกติ ประมาณน้อยกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์ ถ่ายอุจจาระลำบาก เจ็บปวดจากการต้องเบ่งแรงๆ อาจรู้สึกถ่ายไม่หมด อุจจาระมีลักษณะแห้ง แข็ง เป็นก้อนเล็กก้อนน้อยคล้ายขี้แพะ ท้องผูกเกิดจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมบางอย่าง การใช้ยาบางชนิด โรคประจำตัวปัญหาจากสภาวะทางจิตใจ และปัจจัยอื่น ๆ (แนะนำให้อ่านบทความแบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่า “ท้องผูก” ?!!!!) 8 สิ่งที่จะทำให้เราห่างไกลจากอาการท้องผูก ทานอาหารที่มีเส้นใยสูงในทุก ๆ มื้อ หรือ 20–35 กรัมต่อวัน เช่น...

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)

http://klinikutamagracia.org/gejala-dan-penyebab-penyakit-endometriosis-10260.html อาการของโรค ในบางคนอาจไม่มีอาการใด ๆ แต่ตรวจพบจากการตรวจภายใน หรือการผ่าตัดภายในช่องท้อง แต่อย่างไรก็ตามหากมีอาการจะเป็นดังนี้ ปวดท้องตื้อๆ ทรมาน และปวดเป็นเวลานาน เมื่อมีประจำเดือน ปวดท้องน้อย บริเวณหลัง หรือขา ก่อนหรือหลังมีประจำเดือน รู้สึกเจ็บปวดขณะมีเซ็กส์ คลำพบก้อนที่บริเวณท้องน้อยซึ่งเกิดจากถุงน้ำที่รังไข่เติบโตขึ้น หากถุงน้ำช็อกโกแลตเกิดการแตก จะมีอาการปวดท้องเฉียบพลันรุนแรง ****หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นรุนแรงขึ้น และอาจทำให้มีบุตรยากได้ สาเหตุการเกิดโรค โรคนี้เกิดจากการไหลย้อนทางของเลือดประจำเดือนผ่านท่อนำไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น...