คำแนะนำ และข้อควรระวัง เกี่ยวกับ “น้ำ” (Water)
- แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าสะอาด 8–10 แก้ว พยายามดื่มในช่วงครึ่งชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร โดยเฉพาะผู้ที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก หากคุณมีไข้พยายามดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ และเพื่อช่วยในการขับของเสียออกจากระบบต่าง ๆ ในร่างกายคุณ
- ดื่มน้ำตามมาก ๆ เมื่อกินยาที่ระคายเคืองกระเพาะอย่างแอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือยาปฏิชีวนะ จะลดอาการระคายเคืองกระเพาะได้
- กาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักทำให้ร่างกายขาดน้ำ และไม่ควรนับรวมเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นปริมาณน้ำที่คุณดื่มในแต่ละวัน
- นมเป็นอาหาร และไม่ควรดื่มนมทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้
http://www.gea.com/global/en/applications/utilities/environment/water_treatment_potable-water-treatment.jsp
- อย่าดื่มน้ำจากก๊อกน้ำร้อน เพราะน้ำร้อนละลายสารตะกั่วจากท่อออกมาได้มากกว่าน้ำเย็น และในยามเช้า ควรปล่อยให้น้ำไหลทิ้งสักสองสามนาทีก่อนที่จะใช้ เพื่อให้ตะกั่วที่สะสมอยู่ทั้งคืนได้ไหลทิ้งก่อน
- หากอาศัยอยู่ในบริเวณที่ใช้น้ำกระด้าง คุณอาจได้รับแคลเซียม และแมกนีเซียมมากกว่าที่คุณคิด
- เครื่องกรองน้ำที่ราคาย่อมเยาที่สุดคือเหยือกแบบมีที่กรองติดอยู่ สิ่งที่คุณต้องทำคือ เทน้ำผ่านที่กรอง แน่นอนว่าระบบกรองที่ซับซ้อนกว่าซึ่งจำกัดโลหะหนัก และสารก่อมะเร็งได้มากกว่าย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่อย่างน้อยการกรองน้ำด้วยเหยือกกรองแบบธรรมดาก็ประหยัดและดีกว่าการไม่กรองเสียเลย
- อย่านำขวดน้ำพลาสติกที่มีน้ำอยู่ในขวดไปแช่แข็ง เนื่องจากอาจทำให้สารไดออกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ออกมาจากพลาสติกมากขึ้น
- หากในน้ำที่คุณใช้มีสารคลอรีนเป็นสารพิษจากยาฆ่าแมลงตกค้าง สารเคมีเหล่านี้อาจเข้าสู่ร่างกายโดยซึมผ่านผิวหนัง หรือกลายเป็นไอระเหยให้คุณสูดดม การอาบน้ำเหล่านี้เพียง 15 นาที อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายเทียบเท่ากับการดื่มน้ำที่มีสารเคมีเจือปนถึง 8 แก้ว