เรื่องของรอบเดือนที่ผู้หญิงทุกคนต้องเจอ การปวดท้องประจำเดือนนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะเกิดจากการที่กล้ามเนื้อมดลูกหดเกร็ง รัดตัวเพื่อให้เยื่อบุมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนนั่นเอง อาการปวดหน่วงๆ จึงเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาประมาณ 24 ชม. และจะอาการดีขึ้นใน 1 – 2 วัน

แต่ในกรณีที่มีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง ปวดเกร็งจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นปกติได้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพร่างกาย หรือสัญญาณของโรคภัยบางอย่างได้ เช่น ซีสต์บริเวณรังไข่ ช็อคโกแลตซีสต์ ติดเชื้อในช่องคลอด มะเร็งรังไข่ เนื้องอกในมดลูก ซึ่งในกรณีที่ร่างกายมีโรคแฝง นอกจากอาการปวดท้องมากผิดปกติแล้ว อาจมีอาการ เช่น ตกขาวมีกลิ่น มีอาการคัน สีประจำเดือนเปลี่ยน ปวดศีรษะรุนแรง เป็นต้น กรณีนี้ควรรีบพบแพทย์

อาการปวดท้องประจำเดือนปกติ จากการหดตัวของมดลูก ได้แก่

• ปวดท้องน้อย ปวดร้าวบริเวณหลัง อาจรู้สึกปวดได้ในบริเวณขา
• อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
• คลื่นไส้อาเจียน

สามารถบรรเทาได้ด้วยตนเอง ดังนี้

1. ประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน

สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป อาจเป็นกระเป๋าชนิดเติมน้ำร้อนเอง หรือกระเป๋าน้ำร้อนไฟฟ้า ก็ได้ การประคบจะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยลดอาการปวดได้ สามารถประคบได้เรื่อยๆ จนกว่าอาการจะทุเลาลง

2. รับประทานยาแก้ปวด

หากมีอาการปวดมาก ปวดรุนแรง สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาได้ แต่ก็ไม่แนะนำนัก เพราะอาจส่งผลถึงร่างกายส่วนอื่นได้ ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการรุนแรง

3. ดื่มน้ำอุ่น

วิธีที่ทำได้ง่าย และมีประสิทธิภาพ การดื่มน้ำอุ่นนั้นไม่เป็นเพียงแค่ช่วยให้กล้ามเนื้อร่างกายผ่อนคลาย แต่ยังช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ทำให้ตับทำงานได้มีประสิทธิภาพ และช่วยคุมฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ดีขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น เพราะอาจส่งผลให้เลือดจับตัวกันและขับออกมายาก อาจทำให้ปวดรุนแรงขึ้นได้