ทำความรู้จักกับยาแก้แพ้
ทำความรู้จักกับยาแก้แพ้
อาการแพ้ สามารถเกิดขึ้นกับคนทุกเพศทุกวัย และเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้อากาศ แพ้อาหาร แพ้ฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ โดยเมื่อได้รับสารก่ออาการแพ้แล้ว ร่างกายจะหลั่ง ฮิสตามีน (Histamine) ออกมา ซึ่งทำให้เราเกิดอาการหลอดลมตีบ คัดจมูก น้ำมูกไหล คลื่นไส้ ปวดท้อง หรือมีผื่นแดงคันขึ้นตามผิวหนัง เราจึงจำเป็นต้องได้รับ “ยาแก้แพ้” เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้นั่นเอง
![](https://blog.arincare.com/wp-content/uploads/2020/11/allergy.jpg)
ยาแก้แพ้ คืออะไร?
ยาแก้แพ้ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) คือยาที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งฤทธิ์ของฮิสตามีน และทำให้อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม หรือผื่นคันอันเกิดจากการแพ้เบาลงได้
ยาแก้แพ้มีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่
ยากลุ่มที่ทำให้ง่วงซึม
ยากลุ่มนี้เป็นยาแก้แพ้แบบดั้งเดิม ที่จะออกฤทธิ์ต้านฮิสตามีนโดยตัวยาจะผ่านเข้าสู่สมองไปกดระบบประสาท ทำให้คนทานมีอาการง่วงซึมตามมาได้ ยาในกลุ่มนี้ออกฤทธิ์ได้ดีแต่ฤทธิ์จะอยู่ได้ไม่นานนัก จึงอาจจำเป็นต้องทานซ้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดอาการแพ้
ตัวอย่างตัวยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ ไฮดรอไซซีน (hydroxyzine), ไดเมนไฮดรีเนต (dimenhydrinate), บรอมเฟนิรามีน (brompheniramine) และ คลอเฟนิรามีน (chlorpheniramine) หรือยาแก้แพ้เม็ดเหลืองที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง
ข้อควรระวังในการใช้
- ยาแก้แพ้กลุ่มนี้ทำให้มีอาการง่วงซึมได้ จึงควรระมัดระวังการใช้ในผู้ที่ต้องขับรถ หรือควบคุมเครื่องจักร
- ห้ามใช้ร่วมกับยานอนหลับ ยากล่อมประสาท หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ ไม่ควรซื้อยาทานเอง
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาปริมาณมาก โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีต่อมลูกหมากโต และผู้ป่วยที่มีความดันในลูกตาสูง
- อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ ได้ เช่น ปากแห้ง คอแห้ง จมูกแห้ง ตาพร่า และปัสสาวะคั่ง
![](https://blog.arincare.com/wp-content/uploads/2020/10/58856019.d0fa3b848f64466999f2e3b651fc281b.20100515.jpg)
ยากลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วงซึม
ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์คล้ายยากลุ่มแรก แต่ตัวยาจะผ่านเข้าสู่สมองได้น้อยมาก จึงไม่ทำให้คนทานรู้สึกง่วงซึม แถมยังก่ออาการข้างเคียงน้อยกว่ายาแก้แพ้กลุ่มดั้งเดิมด้วย โดยตัวอย่างตัวยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ เฟโซเฟนาดีน (fexofenadine), เลโวเซทิริซีน (levocetirizine), ลอราทาดีน (loratadine) และ เซทิริซีน (cetirizine) เป็นต้น
ข้อควรระวังในการใช้
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาปริมาณสูงในผู้ป่วยโรคตับ โรคไต หรือมีคลื่นหัวใจผิดปกติ
- การทานยากลุ่มนี้ร่วมกับยาฆ่าเชื้อบางชนิด เช่น คีโตโคนาโซล (ketoconazole), อิริโทรมัยซิน(erythromycin) อาจส่งผลเพิ่มฤทธิ์ของยาได้ คนที่ใช้ยาชนิดอื่นอยู่แล้วจึงควรแจ้งแพทย์ก่อนรับประทาน
- อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ วิงเวียน ท้องผูก และปากแห้งได้เช่นกัน
เห็นแล้วใช่ไหมว่ายาแก้แพ้แต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติและข้อบ่งใช้ที่แตกต่างกันไป หากเราต้องการทานยาแก้แพ้ เราจึงต้องรู้สภาพร่างกายและข้อจำกัดของตัวเอง รวมถึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้งด้วย
รู้สึกไม่สบาย? เจ็บป่วยฉุกเฉินต้องการยา? Medcare พร้อมให้บริการช่วยให้คุณได้ปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพ เเละจัดหาตัวแทนไปรับยาร้านขายยยามาตรฐานเพื่อนำไปส่งให้ที่บ้านของคุณได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล
เริ่มการปรึกษาได้ที่ >> https://bit.ly/medcareapp