แคลเซียม (Calcium) บริโภคอย่างไรให้พอดี?

https://www.reference.com/health/can-adult-drink-much-milk-b3d0ef978543107 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแคลเซียม แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีมากที่สุดในร่างกาย แคลเซียม และฟอสฟอรัสทำงานร่วมกัน เพื่อให้กระดูกและฟันแข็งแรง แคลเซียม และแมกนีเซียมทำงานร่วมกัน เพื่อสุขภาพของหัวใจและเส้นเลือด แคลเซียมในร่างกายเกือบทั้งหมด 2–3 ปอนด์ สะสมอยู่ในกระดูก และฟัน ร่างกายต้องมีวิตามินเพียงพอ แคลเซียมจะถูกดูดซึมได้ ขนาดแนะนำแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ 1,200 มก. สำหรับหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร 1,200–1,500 มก.และสำหรับผู้หญิงอายุเกิน 50 ปี และผู้ชายอายุเกิน 65 ปี...

แมกนีเซียม สำคัญอย่างไร และบริโภคเท่าไหร่จึงเหมาะสม?

http://www.newsmax.com/FastFeatures/magnesium-food-sources/2014/09/14/id/593363/ “แมกนีเซียม” มีความจำเป็นต่อระบบการเผาผลาญของแคลเซียม และวิตามินซี เช่นเดียวกับฟอสฟอรัส โซเดียม และโพแทสเซียม มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม มก. มีความจำเป็นต่อการทำงานของเส้นประสาท และกล้ามเนื้อ มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน และช่วยคลายความเครียดได้ด้วย ส่วนคนที่ดื่มสุราเป็นประจำมักจะขาดแมกนีเซียม ผู้ใหญ่ต้องการประมาณ 250–500 มก. ทุกวัน สำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร แนะนำ 300–355 มก. และร่างกายคนเรามีแมกนีเซียมอยู่ประมาณ 21 กรัม http://craventhecity.com/its-time-to-stop-the-gushing/ ข้อดีต่อร่างกายของแมกนีเซียม · ช่วยเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนเป็นพลังงาน...

6 คำแนะนำ เกี่ยวกับ “แมกนีเซียม” (Magnesium)

http://www.mymagnesiumdeficiency.info/best-magnesium-supplement/ 1. หากคุณเป็นคนที่ดื่มสุราเป็นประจำ แนะนำให้ทานแมกนีเซียมให้มากขึ้น และหากการออกกำลังกายในแต่ละวันทำให้คุณอ่อนล้า คุณอาจจะต้องการแมกนีเซียมมากขึ้น 2. ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนเอสโทรเจนรูปแบบใดก็ตาม ควรรับประมาณอาหารที่มีแมกนีเซียมให้สูงมากขึ้น http://asianetindia.com/bad-effects-of-emergency-contraceptive-pills/ 3. หากคุณธัญพืชไม่ขัดสีถั่ว ผักสีเขียวเข้ม กล้วย เป็นประจำคุณอาจจะได้รับแมกนีเซียมมากพอแล้ว เช่นเดียวกับผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณที่ใช้น้ำกระด้าง http://blog.diabetv.com/can-a-person-with-diabetes-eat-bananas/ 4. หากคุณเป็นโรคเบาหวานชนิดดื้อต่ออินซูลิน การรับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงช่วยลดความดันโลหิตได้ ควรปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนรับประทานแมกนีเซียมเสริม 5. แมกนีเซียมทำงานร่วมกับวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัสได้ดี และโดยตัวของแมกนีเซียมเองอาจทำให้ท้องร่วงได้ ดังนั้น ควรรับประทานร่วมกับแคลเซียม ในรูปแบบวิตามินรวม หรือในรูปแบบของแมกนีเซียมไกลซิเนต กลูโคเนต...

ทำความรู้จักกับ “แมงกานีส” แร่ธาตุที่มีประโยชน์หลากหลาย

https://authoritynutrition.com/does-meratrim-work/ แมงกานีส สำคัญอย่างไรต่อร่างกายเรา? แมงกานีสช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่จำเป็นต่อกระบวนการนำไบโอติน บี1 และวิตามินซี มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีความจำเป็นต่อโครงสร้างของกระดูก มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม มก. มีความสำคัญต่อการสร้างไทรอกซิน ฮอร์โมนหลักของต่อมไทรอยด์ มีความสำคัญต่อกระบวนการย่อย และนำอาหารมาใช้ให้เป็นประโยชน มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และระบบประสาท ไม่มีขนาดแนะนำให้รับประทานต่อวันอย่างเป็นทางการ แต่สถาบันวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา แนะนำให้รับประทาน 2–5 มก. สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป http://blog.insidetracker.com/topic/calcium ข้อดีของแมงกานีส ช่วยลดอาการอ่อนล้า มีส่วนช่วยในกระบวนการตอบสนองของกล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันโรคกระดูดพรุน ช่วยให้ความจำดีขึ้น ลดอาการหงุดหงิดง่าย...

ออร์นิทีน และอาร์จีนีน…เกี่ยวข้องอย่างไรกับ “โกร๊ธฮอร์โมน”

http://nootriment.com/arginine-ornithine-lysine/ ออร์นิทีน และอาร์จีนีนเป็นกรดแอมิโนที่เกี่ยวข้องกับการหลั่งของโกร๊ธฮอร์โมน และจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทกรดแอมิโนที่ดังที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากคุณสมบัติในการช่วยให้คุณผอมลง และหุ่นดีขึ้นขณะนอนหลับนั้นเอง ในขณะที่ฮอร์โมนบางตัวกระตุ้นร่างกายให้กักเก็บไขมัน โกร๊ธฮอร์โมนกลับทำงานอย่างขยันขันแข็งในการกำจัดไขมัน ไม่เพียงแต่จะส่งผลให้คุณดูผอมลง แต่ยังช่วยเพิ่มพลังงานให้อีกด้วย http://www.museudelrock.com/pros-and-cons-of-human-growth-hormone-treatment/ ออร์นิทีนกระตุ้นการหลั่งของอินซูลิน และช่วยอินซูลินในการทำงานในฐานะฮอร์โมนชนิดเสริมสร้างกล้ามเนื้อ นักเพาะกายจึงนิยมรับประทานเสริมอาหาร การรับประทานออร์นิทีนเพิ่มจะช่วยเพิ่มระดับของอาร์จินีนในร่างกาย ที่จริงแล้วอาร์จีนีนถูกสร้างขึ้นมาจากออร์นิทีนและ ออร์นิทีนเองก็เปลี่ยนมาจากอาร์จีนีน เป็นวัฏจักรต่อเนื่องกัน http://www.athletespower.com/supplements/arginine-supplements-cause-gradual-decrease-in-igf-1/ เนื่องจากอาร์จีนีน และออร์นิทีนมีความใกล้เคียงกันมาก คุณสมบัติ และข้อควรระวังทั้ง 2 ตัวนี้จึงใช้ร่วมกันได้ ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้น ออร์นิทีนจะทำงานได้ดีที่สุดหากรับประทานในเวลาเดียวกัน และรูปแบบเดียวกันกับอาร์จีนีน...