healthcare

6 ข้อดีของถั่วเหลืองที่มีต่อสุขภาพ

http://www.malayalamlive.co/natural-ways-to-reduce-cholestrol/ สารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเหลืองอาจช่วยป้องกันมะเร็งหลายชนิดรวมไปถึงป้องกันการแก่ชราก่อนวัยอันควรด้วย อาจช่วยชะลอ หรือป้องกันการเสื่อมของไตในผู้ที่ไตทำงานบกพร่อง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก และป้องกันภาวะกระดูกพรุน ช่วยลดความดันโลหิตในหญิงวัยหมดประจำเดือน อาจบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้ http://agriculturewire.com/soybean-futures-edge-higher-on-lower-production/

อาหาร และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ทางเลือกในการบริโภค?

http://proseeds.ca/top-3-reasons-consumers-love-soybean-products/ เมล็ดถั่วเหลือง มีทั้งแบบทอดกรอบ และแบบอบแห้ง มักมีการเติมเกลือหรือปรุงรสเพิ่ม จัดเป็นแหล่งของโปรตีน เส้นใยอาหาร และไอโซฟลาโวนที่ยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรลืมว่าเมล็ดถั่วเหลืองก็ไม่ต่างจากถั่วอื่น ๆ ที่มีไขมันสูงและแคลอรีสูง http://farmfutures.com/story-weekly-soybean-review-0-30767 ถั่วเพาะงอก เกิดจากเมล็ดถั่วเหลืองที่ถูกนำมาเพาะเป็นเวลาประมาณ 6 วัน เป็นแหล่งของโปรตีน และเส้นใยอาหารที่ดี สามารถเติมลงในอาหารจานผักได้ง่าย http://www.everydayjuicer.com/soybean-sprouts/ ถั่งเหลืองฝักอ่อน และยอดอ่อนสด เป็นฝัก หรือต้นอ่อนของถั่วเหลืองต่างจากถั่วเหลืองเมล็ดแห้ง คือ นำมารับประทานตั้งแต่เป็นต้นอ่อนโดยการนึ่งอย่างเดียวกับผักสด เป็นแหล่งโปรตีน เส้นใยอาหาร และไอโซฟลาโวนที่ดี อาหารว่างซึ่งเป็นที่นิยมของญี่ปุ่นนั้นเอง...

กรดแพนโทเธนิค คืออะไรนะ??

http://advanced-med.com/bioidentical-hormones/ วิตามินบี 5 หรือกรดแพนโทเธนิค (Pantothenic Acid) ไม่ค่อยคงทน ถูกทำลายได้ง่ายโดยความร้อน กรด เช่น น้ำส้ม และด่าง เช่น โซดาสำหรับทำขนม (Baking Soda) วิตามินบี 5 ในเนื้อสัตว์จะสูญหายไปขณะหุงต้มประมาณ 33% และในแป้งจะสูญหายไปประมาณ 50% ขณะขัดสี และบดเป็นแป้ง การได้รับประมาณวันละ 4–7 มก.ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนส่วนใหญ่ ประโยชน์ต่อร่างกาย...

ทอรีน (Taurine) ดีอย่างไรต่อร่างกาย?

http://www.livestrong.com/article/499267-eggs-a-natural-source-of-taurine/ ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ กรดแอมิโนไม่จำเป็นตัวนี้เป็นโครงสร้างของกรดแอมิโนตัวอื่น ๆ ทั้งหมด ทอรีนพบได้มากในเนื้อเยื่อหัวใจ กล้ามเนื้อลาย และระบบประสาทส่วนกลาง ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในการย่อยไขมัน การดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน และในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด แถมยังทำหน้าที่ปกป้องสมองของเราอีกด้วย กรดแอมิโนนี้ดีต่อร่างกายอย่างไร ช่วยให้หัวใจทำงานได้แข็งแรงขึ้น ส่งเสริมการมองเห็นและป้องกันศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม ช่วยในการรักษาโรควิตกกังวลและโรคลมชัก แหล่งจากธรรมชาติของทอรีน ไข่ ปลา เนื้อสัตว์ นม http://autism.lovetoknow.com/Autism_and_Low_Taurine ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทอรีนมีจำหน่ายในรูปแคปซูลขนาด 500 มก. รับประทานได้วันละสามเวลา พร้อมน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้...

(Copper) ข้อดีของทองแดงต่อร่างกาย

http://www.medicalnewstoday.com/articles/288165.php ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการเปลี่ยนธาตุเหล็กให้เป็นเฮโมโกลบิน(เฮโมโกลบินคือส่วนประกอบของเมล็ดเลือดแดง มีความสำคัญในการนำพาออกซิเจนไปยังเซลล์) สามารถเข้าสู่กระแสเลือดเลือดได้ภายในสิบห้านาทีหลังจากรับประทาน จำเป็นต้องใช้ประกอบในการนำวิตามินซีไปใช้ ไม่มีขนาดที่แนะนำในการรับประทานต่อวันที่กำหนดโดยสถาบันวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา แต่ในปัจจุบันแนะนำให้รับประทานได้ 1.5–3 มก.สำหรับผู้ใหญ่ ข้อดีของทองแดง ช่วยเพิ่มพลังงาน โดยการช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคจากการขาดแร่ธาตุ โลหิตจาง บวม โรคกระดูก และอาจเกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ รูมาทอยด์ http://www.fullcirclehealthcareinc.com/anemia.html แหล่งจากธรรมชาติ ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ถั่วลันเตา โฮลวีต ลูกพรุน เครื่องในสัตว์ กุ้ง และอาหารทะเลส่วนใหญ่...

คาร์โบไฮเดรตปีศาจร้ายในความเข้าใจผิดของคนอยากผอม!!!

http://www.healthornutrition.com/fat-loss-foods-complete-guide/ คาร์โบไฮเดรต หรืออาหารประเภทแป้ง ปีศาจร้ายในความเข้าใจผิดของคนอยากผอม เป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานกับร่างกาย แป้ง และน้ำตาลอาหารหลักในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตจะถูกย่อยกลายเป็นกลูโคส หรือน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะให้พลังงานที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อสมอง และระบบประสาทส่วนกลาง http://healthy-ojas.com/diabetes/carbohydrate-metabolism.html หากคุณต้องการคาร์โบไฮเดรตในอาหารทุกวัน เพื่อไม่ให้โปรตีนที่มีหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อต้องถูกนำมาใช้อย่างสูญเปล่าเพื่อสร้างพลังงาน แทนมี่จะได้ไปทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากคุณรับประทานคาร์โบไฮเดรตมากเกินกว่าที่จะถูกเปลี่ยนเป็นกลูโคล หรือ ไกลโคเจน (ซึ่งจะถูกเก็บไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อ) เป็นที่ทราบกันดีว่ามันจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน เมื่อร่างกายต้องการเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ไขมันก็จะถูกเปลี่ยนกลับเป็นกลูโคส และคุณก็จะมีน้ำหนักตัวที่ลดลง http://www.nutritionsecrets.com/health-benefits-of-forbidden-black-rice/ อย่ารับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินไปนัก มันสำคัญต่อสุขภาพที่ดีพอกับสารอาหารอื่น ๆ และหากเทียบน้ำหนักกรัมต่อกรัมแล้ว มันก็ให้พลังงาน...

ดัชนีไกลซีมิก Glycemic Index (GI) ดัชนีวัดค่าคาร์โบไฮเดรต!!

http://blog.fooducate.com/2013/07/26/four-myths-about-the-glycemic-index/ เมื่อพูดถึงการจัดอันดับโดยหน่วยวัดที่เรียกว่า “ดัชนีไกลซีมิก” ซึ่งเป็นการคำนวณว่าน้ำตาลในเลือดจะสูง และเร็วเพียงใดหลังจากที่รับประทานอาหารแต่ละชนิดเข้าไป อาหารที่มีดัชนีไกลซีมิกสูงจะมีคาร์โบไฮเดรตสูง (น้ำตาลและแป้งสูง) และส่งผลให้น้ำตาลกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว กลูโคสไม่ได้ผิดอะไร (มันเป็นดั่งเชื้อเพลิงที่ทุกเซลล์ในร่างกายต้องการใช้) แต่ในการจัดการกับกลูโคส ตับอ่อนต้องสร้างอินซูลินขึ้นมา ยิ่งคุณรับประทานอาหารที่มีไกลซีมิกสูง ตับอ่อนต้องทำงานหนักมากขึ้น และหากมันต้องทำงานหนักเกินไป บ่อยเกินไป มันก็อาจหมดแรงและส่งผลให้เกิดภาวะเบาหวานตามมาได้ http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter3/insulin_hormone.htm ยิ่งไปกว่านั้น คือ อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีไกลซีมิกสูงยังทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และอินซูลินก็จะสูงขึ้นตาม อินซูลินที่สูงนี้จะไปเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินให้กลายเป็นไขมัน และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมอาหารไขมันต่ำ หรืออาหารไร้ไขมันยังคงทำให้คนยังมีไขมัน http://www.tuvayanon.net/I-ep6-001001A-570909-1335.html ดัชนีไกลซีมิกให้คะแนนอาหารโดยประเมินว่า...

ไขมันอิ่มตัว vs ไขมันไม่อิ่มตัว คืออะไร?

http://www.newhealthadvisor.com/Difference-Between-Saturated-and-Unsaturated-Fats.html ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) มาจากอาหารในกลุ่มเนื้อสัตว์ (มีข้อยกเว้นสำหรับน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน) ไขมันจากสัตว์ทุกชนิดมีคอเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัวจะมีสถานะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) (แบ่งเป็นประเภทเชิงเดี่ยว และเชิงซ้อน) มาจากอาหารที่ได้จากพืช ไม่มีผักผลไม้ชนิดใดมีคอเลสเตอรอล ไขมันไม่อิ่มตัวจะมีสถานะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง ****ถึงแม้ว่าอาหารบางชนิดจะไม่มีคอเลสเตอรอล แต่ไม่ได้หมายความว่าอาหารนั้นจะไม่มีไขมัน เช่น อะโวคาโด เป็นอาหารที่ไม่มีคอเลสเตอรอลก็จริง แต่ปริมาณเพียงเล็กน้อยที่ใช้ทำกัวคาโมลี (ซอสที่ทำจากอะโวคาโด) ก็ให้ไขมันถึง 30 กรัมเลยทีเดียว http://www.everwell.com/diet_and_nutrition_claims/saturated_fat_heart_health.php