บทความและสาระน่ารู้ดีๆ จากทีมงาน Arincare

“คีเลชัน” (Chelation) คืออะไร

http://www.consented.co.uk/read/are-vitamin-supplements-making-us-healthier-or-are-we-pissing-our-money-away/ คีเลชัน (Chelation) เป็นกระบวนการที่แร่ธาตุถูกเปลี่ยนให้เป็นรูปที่ย่อย และดูดซึมได้ อาหารเสริมแร่ธาตุมักไม่ได้ผ่านกระบวนการคีเลชัน จึงต้องถูกกระบวนการย่อยเปลี่ยนให้เป็นรูปที่ย่อยและดูดซึมได้เสียก่อน ร่างกายจึงนำไปใช้งานได้ แต่สำหรับหลายคน กระบวนการคีเลชันตามธรรมชาติเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่งผลให้แร่ธาตุจำนวนมากที่รับประทานเข้าไปถูกใช้ได้จริงเพียงบางส่วนเท่านั้น เมื่อเราได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่าร่างกายไม่สามารถใช้งานสารอาหารได้ทุกชนิดที่รับประทานเข้าไป คนส่วนใหญ่ไม่สามารถย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธาตุเหล็กที่เรารับประทานเข้าไปได้ถูกดูดซึมไปใช้จริง ๆ เพียงร้อยละ 2–10 เท่านั้น และจากส่วนน้อยที่ถูกดูดซึมเข้าไปนั้น ครึ่งหนึ่งจะถูกขับออกจากร่างกาย คงเข้าใจกันมากขึ้นว่า การรับประทานแร่ธาตุที่ผ่านกระบวนการคีเลชันแล้วนั้นสำคัญเพียงใด แร่ธาตุที่ผ่านกระบวนการคีเลชันโดยการจับเข้ากับกรดแอมิโน จะถูกดูดซึมได้ดีกว่าแบบไม่ผ่านการคีเลชัน 3–10 เท่า

วิตามินแบบแตกตัวช้า คืออะไร และดีอย่างไร?

https://smartypantsvitamins.com/natural-vitamins-vs-synthetic-vitamins-part-1-vitamin-a/ ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวงการวิตามิน คือ การค้นพบวิธีการผลิตวิตามินแบบแตกตัวช้า ซึ่งทำได้โดยการบรรจุวิตามินเป็นเม็ดกลมขนาดจิ๋วมากมาย จากนั้นก็นำไปรวมเข้ากับสารประกอบชนิดพิเศษที่ออกแบบมาให้ค่อย ๆ แตกตัว เพื่อให้การดูดซึมเข้าสู่ร่างกายใช้เวลา 3–6 ชั่วโมง วิตามินส่วนใหญ่เป็นชนิดละลายน้ำและไม่สามารถเก็บสะสมไว้ในร่างกายได้ หากไม่มีเทคโนโลยีการทำให้แตกตัวช้า มันจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว และไม่ว่าจะรับประทานปริมาณมากเพียงใด ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะในเวลา 2–3 ชั่วโมง http://www.mybeautygym.com/are-you-taking-too-many-vitamins/ วิตามินอาหารเสริมในแบบแตกตัวช้าให้ประสิทธิผลที่ดีขึ้น ลดการสูญเสียจากการถูกขับออก และช่วยรักษาระดับของวิตามินในเลือดให้คงที่ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน (อ่านฉลากเพื่อให้ทราบลักษณะการแตกตัว เพราะวิตามินที่ระบุว่าแตกตัวช้าบางตัวอาจแตกตัวในเวลา 2 ชั่วโมง หรือเร็วกว่านั้น จึงไม่ได้ให้ผลที่ดีกว่าวิตามินแบบปกติซึ่งราคาต่ำกว่ามาก)

รับประทานวิตามินเสริมอาหารอย่างไร และเมื่อไหร่จึงเหมาะสม

http://www.organicauthority.com/do-vitamins-expire-the-truth-about-your-supplements/ ร่างกายมนุษย์ทำงานเป็นวัฏจักรตลอด 24 ชั่วโมง เซลล์ของคุณไม่ได้นอนหลับไปด้วยในขณะที่คุณหลับ และเซลล์ก็ไม่สามารถมีชีวิตได้หากปราศจากออกซิเจน และสารหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลดีกับร่างกายที่สุด แนะนำให้แบ่งวิตามินเสริมอาหารของคุณเป็นมื้อ ๆ รับประทานตลอดทั้งวัน http://www.sbs.com.au/food/article/2014/05/09/eat-well-four-myths-about-vitamin-supplements ช่วงเวลาหลักในการรับประทานวิตามิน คือ พร้อมมื้ออาหารหรือหลังอาหาร เนื่องจากวิตามินเป็นสารอินทรีย์ จึงควรรับประทานพร้อมอาหารและแร่ธาตุอื่นเพื่อการดูดซึมที่ดีที่สุด และเนื่องจากวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ โดยเฉพาะวิตามินบีรวมและซี จะถูกขับออกทางปัสสาวะอย่างรวดเร็ว หากคุณสามารถรับประทานพร้อมอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็นได้ จะช่วยให้ร่างกายของคุณมีวิตามินในระดับสูงตลอดทั้งวัน แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะรับประทานหลังอาหารทุกมื้อ อาจรับประทานครึ่งหนึ่งหลังอาหารเช้า และอีกครึ่งหนึ่งหลังอาหารเย็นแทนก็ได้...

โปรตีนจากถั่วเหลืองดีกว่าเนื้อสัตว์อย่างไร?

http://agriculturewire.com/soybean-futures-edge-higher-on-lower-production/ ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ชอบรับประทานถั่วเหลือง เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานอาหารที่มีถั่วเหลืองอย่างยิ่ง และเก็บเกี่ยวประโยชน์ที่ช่วยต่ออายุให้ยืนยาว อีกทั้งชาวญี่ปุ่นยังมีอัตราการตายจากมะเร็งและโรคหัวใจต่ำกว่าชาวอเมริกันมาก ในปัจจุบันนักวิจัยเชื่อว่าการรับประทานอาหารที่ทำมากจากถั่วเหลืองเพิ่มเพียงแค่ 2 ออนซ์ในอาหารแต่ละวัน จะเป็นดั่งเกราะที่คุ้มกันโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ http://ohmyveggies.com/recipe-baked-barbecue-tofu-tofu-for-tofu-haters/ ถั่วเหลืองมีเส้นใยอาหาร และไฟโตเอสโทรเจนสูง โดยเฉพาะไอโซฟลาโวนที่สำคัญสองตัวคือ เจนิสทีน และเดดซีน ทั้งยังเป็นหนึ่งในอาหารจากพืชไม่กี่ชนิดที่มีโปรตีนครบสมบูรณ์ โดยมีสัดส่วนของกรดแอมิโนที่สำคัญแปดชนิดอย่างสมดุล American Journal of Clinical Nutrition ระบุว่า “โปรตีนจากถั่วเหลืองสามารถเป็นแหล่งโปรตีนเพียงอย่างเดียวของมนุษย์ได้” เช่นเดียวกับโปรตีนจากพืชอื่น ๆ...

6 ข้อดีของถั่วเหลืองที่มีต่อสุขภาพ

http://www.malayalamlive.co/natural-ways-to-reduce-cholestrol/ สารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเหลืองอาจช่วยป้องกันมะเร็งหลายชนิดรวมไปถึงป้องกันการแก่ชราก่อนวัยอันควรด้วย อาจช่วยชะลอ หรือป้องกันการเสื่อมของไตในผู้ที่ไตทำงานบกพร่อง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก และป้องกันภาวะกระดูกพรุน ช่วยลดความดันโลหิตในหญิงวัยหมดประจำเดือน อาจบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้ http://agriculturewire.com/soybean-futures-edge-higher-on-lower-production/

อาหาร และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ทางเลือกในการบริโภค?

http://proseeds.ca/top-3-reasons-consumers-love-soybean-products/ เมล็ดถั่วเหลือง มีทั้งแบบทอดกรอบ และแบบอบแห้ง มักมีการเติมเกลือหรือปรุงรสเพิ่ม จัดเป็นแหล่งของโปรตีน เส้นใยอาหาร และไอโซฟลาโวนที่ยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรลืมว่าเมล็ดถั่วเหลืองก็ไม่ต่างจากถั่วอื่น ๆ ที่มีไขมันสูงและแคลอรีสูง http://farmfutures.com/story-weekly-soybean-review-0-30767 ถั่วเพาะงอก เกิดจากเมล็ดถั่วเหลืองที่ถูกนำมาเพาะเป็นเวลาประมาณ 6 วัน เป็นแหล่งของโปรตีน และเส้นใยอาหารที่ดี สามารถเติมลงในอาหารจานผักได้ง่าย http://www.everydayjuicer.com/soybean-sprouts/ ถั่งเหลืองฝักอ่อน และยอดอ่อนสด เป็นฝัก หรือต้นอ่อนของถั่วเหลืองต่างจากถั่วเหลืองเมล็ดแห้ง คือ นำมารับประทานตั้งแต่เป็นต้นอ่อนโดยการนึ่งอย่างเดียวกับผักสด เป็นแหล่งโปรตีน เส้นใยอาหาร และไอโซฟลาโวนที่ดี อาหารว่างซึ่งเป็นที่นิยมของญี่ปุ่นนั้นเอง...

วิตามินมีกี่รูปแบบ?

http://www.artesanias-minerales.com/what-is-vitamin/ แหล่งที่มาของวิตามิน วิตามินเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เรารับประทาน มีทั้งรูปแบบแคปซูล เม็ดอัด ผง หรือน้ำ หรือมาจากการทำอาหาร ถึงแม้ว่าเราสังเคราะห์วิตามินได้หลายตัว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้วิธีสกัดจากธรรมชาติมากกว่า เช่น วิตามินเอที่สกัดมาจากน้ำมันตับปลา วิตามินบีรวมที่สกัดจากตับ หรือยีสต์ วิตามินซีที่ดีที่สุดสกัดมาจากโรสฮิป ซึ่งเป็นเบอร์รี่ที่พบในผลของกุหลาบชนิดหนึ่ง พบได้หลังจากที่กลีบร่วงโรยแล้ว และวิตามินอีที่ส่วนใหญ่สกัดจากถั่วเหลือง จมูกข้าวสาลี หรือข้าวโพด http://sailorsaturn.tk/hudor/vitamin-a-pill-cenu.php รูปแบบต่างๆ ของวิตามิน ความต้องการของคนเราแตกต่างกันไป ด้วยเหตุผลนี้ทำให้วิตามินมีหลายรูปแบบ เช่น เม็ดอัด เป็นรูปแบบที่เจอบ่อยและสะดวกที่สุด...

กรดแพนโทเธนิค คืออะไรนะ??

http://advanced-med.com/bioidentical-hormones/ วิตามินบี 5 หรือกรดแพนโทเธนิค (Pantothenic Acid) ไม่ค่อยคงทน ถูกทำลายได้ง่ายโดยความร้อน กรด เช่น น้ำส้ม และด่าง เช่น โซดาสำหรับทำขนม (Baking Soda) วิตามินบี 5 ในเนื้อสัตว์จะสูญหายไปขณะหุงต้มประมาณ 33% และในแป้งจะสูญหายไปประมาณ 50% ขณะขัดสี และบดเป็นแป้ง การได้รับประมาณวันละ 4–7 มก.ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนส่วนใหญ่ ประโยชน์ต่อร่างกาย...

ทอรีน (Taurine) ดีอย่างไรต่อร่างกาย?

http://www.livestrong.com/article/499267-eggs-a-natural-source-of-taurine/ ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ กรดแอมิโนไม่จำเป็นตัวนี้เป็นโครงสร้างของกรดแอมิโนตัวอื่น ๆ ทั้งหมด ทอรีนพบได้มากในเนื้อเยื่อหัวใจ กล้ามเนื้อลาย และระบบประสาทส่วนกลาง ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในการย่อยไขมัน การดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน และในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด แถมยังทำหน้าที่ปกป้องสมองของเราอีกด้วย กรดแอมิโนนี้ดีต่อร่างกายอย่างไร ช่วยให้หัวใจทำงานได้แข็งแรงขึ้น ส่งเสริมการมองเห็นและป้องกันศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม ช่วยในการรักษาโรควิตกกังวลและโรคลมชัก แหล่งจากธรรมชาติของทอรีน ไข่ ปลา เนื้อสัตว์ นม http://autism.lovetoknow.com/Autism_and_Low_Taurine ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทอรีนมีจำหน่ายในรูปแคปซูลขนาด 500 มก. รับประทานได้วันละสามเวลา พร้อมน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้...

(Copper) ข้อดีของทองแดงต่อร่างกาย

http://www.medicalnewstoday.com/articles/288165.php ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการเปลี่ยนธาตุเหล็กให้เป็นเฮโมโกลบิน(เฮโมโกลบินคือส่วนประกอบของเมล็ดเลือดแดง มีความสำคัญในการนำพาออกซิเจนไปยังเซลล์) สามารถเข้าสู่กระแสเลือดเลือดได้ภายในสิบห้านาทีหลังจากรับประทาน จำเป็นต้องใช้ประกอบในการนำวิตามินซีไปใช้ ไม่มีขนาดที่แนะนำในการรับประทานต่อวันที่กำหนดโดยสถาบันวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา แต่ในปัจจุบันแนะนำให้รับประทานได้ 1.5–3 มก.สำหรับผู้ใหญ่ ข้อดีของทองแดง ช่วยเพิ่มพลังงาน โดยการช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคจากการขาดแร่ธาตุ โลหิตจาง บวม โรคกระดูก และอาจเกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ รูมาทอยด์ http://www.fullcirclehealthcareinc.com/anemia.html แหล่งจากธรรมชาติ ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ถั่วลันเตา โฮลวีต ลูกพรุน เครื่องในสัตว์ กุ้ง และอาหารทะเลส่วนใหญ่...