บทความและสาระน่ารู้ดีๆ จากทีมงาน Arincare

05 Arincare Tutorial

October 31, 2016 Arincare

เพิ่มเจ้าหนี้ (Supplier) “เจ้าหนี้” ในระบบของ Arincare หมายถึง “Supplier” บุคคลหรือองค์กรที่จัดหายาและสินค้าอื่น ๆ ให้กับร้านขายยาของเจ้าของบริษัท และการรับสินค้ามาขายต่อ ก็จะสั่งซื้อสินค้าจากเจ้าหนี้ แล้วเจ้าหนี้ก็จะดำเนินการจัดส่งสินค้าตามใบสั่งซื้อสินค้า การจัดการเจ้าหนี้จะเป็นสิทธิเฉพาะของเจ้าของบริษัทหรือผู้มีสิทธิใช้งานระบบ Back Office (บริหารจัดการหลังบ้าน) เท่านั้น เริ่มต้นการเพิ่มเจ้าหนี้โดยไปที่หน้าหลักของ Back Office แล้วคลิกที่ “สมาชิกการค้า” ตรงแถบเมนูด้านบน จากนั้นให้คลิกที่ “การจัดการเจ้าหนี้” จากนั้นผู้ใช้งานสามารถทำการเพิ่มเจ้าหนี้โดยคลิกที่ปุ่ม “เพิ่มเจ้าหนี้” ด้านขวามมือ เมื่อเข้ามาที่หน้าข้อมูลเจ้าหนี้แล้ว ให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลของเจ้าหนี้จนครบ เมื่อใส่ข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้คลิกปุ่ม “บันทึก” ด้านล่างเพื่อทำการบันทึกข้อมูล เมื่อทำการบันทึกข้อมูลเจ้าหนี้เรียบร้อยแล้ว ระบบจะกลับมาที่หน้าหลักของการจัดการเจ้าหนี้ และจัดเก็บข้อมูลของเจ้าหนี้ไว้และเราสามารถใช้ข้อมูลเจ้าหนี้นี้ในการทำใบสั่งซื้อสินค้า...

01 ARINCARE Tutorial

October 31, 2016 Arincare

Login ระบบ ARINCARE Back office (บริหารจัดการคลังสินค้า) ระบบ Back office เริ่มต้นที่ http://app.arincare.com เมื่อเข้ามาแล้วจะพบกับหน้า login ให้ผู้ใช้ระบบ ใส่ E-mail ที่ใช้สมัครการใช้งาน และใส่รหัสผ่านที่ตั้งไว้ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Back office ภาพรวมหน้าหลัก Login ARINCARE POS การ Login เข้าใช้งานระบบการขายหน้าร้าน หรือ POS...

02 Arincare Tutorial

October 31, 2016 Arincare

การเลือกสาขาสำหรับ POS ระบบ POS สำหรับซื้อขายหน้าร้านของ ARINCARE นั้นถูกออกแบบมาเพื่อสามารถทำงานได้ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ mobile devices ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมใด ๆ เพิ่มเติม ในกรณีที่ผู้ใช้เป็นร้านขายยาที่มีมากกว่า 1 สาขา ผู้ใช้สามารถนำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ไปใช้กับสาขาใดก็ได้เพียงแค่ login เข้าไปเพื่อตั้งค่ากำหนดสาขาเท่านั้น สำหรับการเปลี่ยนสาขาในหน้า POS จะเป็นสิทธิของผู้ดูแลระบบเท่านั้น เมื่อเข้ามาถึงระบบ POS ผ่านทาง Google Chrome ที่...

สารเพิ่มเนื้อ สารยึดเกาะ หรือสารอื่น ๆ ในวิตามินเสริมอาหารที่คุณควรรู้!!!

http://nbestourous.blogspot.com/2014/05/chemical-receptor-in-brain.html   มีอะไรในวิตามินเสริมอาหารมากกว่าที่เราเห็น และบางครั้งก็มากกว่าที่ระบุไว้บนฉลาก สารเพิ่มเนื้อ สารยึดเกาะ สารหล่อลื่น และสารอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีกฎให้ต้องระบุไว้บนฉลาก จึงพบบ่อยครั้งที่ไม่มีการระบุใด ๆ แต่หากคุณยังสงสัยว่าคุณกลืนอะไรลงไปบ้าง รายชื่อสารต่อไปนี้น่าจะช่วยบอกคุณได้ สารเจือจาง (Diluent) หรือสารเพิ่มเนื้อ (Filler) เป็นสารที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารอื่น แต่ถูกเติมลงไปในเม็ดยาเพื่อเพิ่มขนาดของเม็ดให้สามารถผ่านกระบวนการอัดเม็ดได้ อย่างเช่น ไดแคลเซียมฟอสเฟตซึ่งเป็นแหล่งของแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ดี มักใช้ในยี่ห้อที่มีคุณภาพ เป็นสารที่สกัดจากหินแร่บริสุทธิ์ มีลักษณะเป็นผงสีขาว แต่บางครั้งก็อาจนำเอาซอร์บิทอลและเซลลูโลส (เส้นใยจากพืช) มาใช้แทน สารยึดเกาะ...

วิตามินA D E K ในรูปแบบแห้ง หรือแบบละลายน้ำ คืออะไร?

http://www.berkeleywellness.com/supplements/vitamins/article/should-anyone-still-take-vitamin-e สำหรับวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น A D E และK จะมีในรูปแบบ “แห้ง” หรือแบบละลายน้ำ ซึ่งเป็นรูปแบบที่แนะนำสำหรับคนที่มักมีอาการเสียดท้องเมื่อต้องรับประทานน้ำมัน รวมทั้งผู้ที่เป็นสิวง่าย หรือเป็นโรคผิวหนังที่ไม่แนะนำให้รับประทานน้ำมัน และสำหรับผู้ที่พยายามลดน้ำหนักโดยรับประทานอาหารในกลุ่มไขมันให้น้อยที่สุด (วิตามินที่ละลายในไขมันต้องใช้ไขมันในการนำสารอาหารไปเสริมสร้างเนื้อเยื่อ หากเราต้องการอาหารไขมันต่ำ และต้องการรับประทานวิตามินที่ละลายในไขมัน แนะนำให้ใช้เป็นแบบแห้ง)

วิตามินเสริม แบบไหนที่ถูกขับออกไป หรือสะสมในร่างกาย?

http://www.popsugar.com/fitness/Vitamin-D-Calcium-Omega-3-Supplement-Benefits-23544715 ร่างกายของเรามีแนวโน้มที่จะขับสารต่าง ๆ ที่เรารับประทานออกมาทางปัสสาวะในเวลาประมาณสี่ชั่วโมง โดยเฉพาะบรรดาวิตามินที่ละลายน้ำมักเป็นไปตามกฎนี้เป็นส่วนมาก เช่น วิตามินบีและซี โดยเฉพาะหากรับประทานตอนท้องว่าง วิตามินบีและซีอาจจะถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงหลังรับประทาน วิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค จะอยู่ในร่างกายเราประมาณ 24 ชั่วโมง ปริมาณที่มากเกินความจำเป็นจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ตับได้นานขึ้น แต่วิตามินเอ และอีแบบแห้งจะไม่สามารถอยู่ในร่างกายได้นานเท่า

การเก็บรักษายา วิตามินและอาหารเสริม

http://vitaminsandhealthsupplements.com/2439/many-vitamin-c-supplements-high-quality-but-wide-price-differences/ ผลิตภัณฑ์วิตามิน และแร่ธาตุเสริมอาหาร ควรเก็บรักษาในที่แห้ง และมืดห่างไกลจากแสงแดด บรรจุในภาชนะที่ทึบและปิดมิดชิด ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น นอกเสียจากว่าคุณอยู่ในสภาพภูมิอากาศแบบทะเลทราย เพื่อป้องกันความชื้น ให้ใส่ข้าว 5–10 เมล็ดลงไปในก้นกระปุกวิตามิน ข้าวจะดูดซับความชื้นตามธรรมชาติได้ วิตามินที่เก็บในที่เย็น พ้นจากแสง และปิดไว้อย่างดี จะมีประสิทธิภาพคงอยู่ได้ 2–3 ปี แต่เพื่อรับประกันความสดใหม่คุณควรเลือกซื้อยี่ห้อที่ระบุวันหมดอายุไว้ในฉลาก และเมื่อคุณเปิดกระปุกแล้วจะมีประสิทธิภาพคงอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน

วิตามินสังเคราะห์ vs วิตามินจากธรรมชาติ

https://healingautismandadhd.files.wordpress.com/2010/03/vitamins-pile.jpg เมื่อมีคนถามว่า วิตามินสังเคราะห์และวิตามินธรรมชาติมีข้อแตกต่างกันไหม คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับเรา ถึงแม้ว่าวิตามิน และแร่ธาตุสังเคราะห์จะให้ผลดีเช่นเดียวกับวิตามินธรรมชาติ แต่ประโยชน์ที่หลากหลายจากวิตามินธรรมชาตินั้นเหนือกว่า โครงสร้างทางเคมีของวิตามินทั้ง 2 ประเภทอาจจะเหมือนกัน แต่วิตามินธรรมชาติให้อะไรกับเราได้มากกว่า เพราะมีสารตัวอื่น ๆ รวมอยู่ด้วยมากกว่า http://vitamins.lovetoknow.com/How_Much_Vitamin_C_Is_in_an_Orange วิตามินซีสังเคราะห์มีเพียงกรดแอสคอร์บิกเท่านั้น แต่วิตามินซีธรรมชาติมีไบโอฟลาโวนอยด์ ซีคอมเพล็กซ์ทั้งกลุ่ม จึงส่งผลให้วิตามินซีทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า http://drwillard.com/blog/2015/01/the-basics-of-vitamin-e/ วิตามินอีธรรมชาติมีโทโคฟีรอลทุกชนิด ทั้งอัลฟา เบต้า แกมมา และเดลตา จึงมีประสิทธิภาพและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าวิตามินสังเคราะห์ที่มีเพียงดีแอล-แอลฟาโทโคฟีรอล http://www.feminiya.com/11-tips-for-hungry-pregnant-moms-dos-and-donts/...

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “น้ำ” (Water) ต่อร่างกายมนุษย์

http://www.mtlblog.com/2015/09/8-unexpected-reasons-to-drink-more-water/ ข้อเท็จจริง ของน้ำ ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดของเรา 1 ใน 2 ถึง 4 ใน 5 ส่วนของน้ำหนักตัวของเราคือน้ำ มนุษย์สามารถอยู่ได้เป็นสัปดาห์หากปราศจากอาหาร แต่อยู่ได้เพียงไม่กี่วันหากปราศจากน้ำ น้ำเป็นตัวละลายหลักอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อย น้ำช่วยความคุมอุณหภูมิในร่างกาย มีส่วนสำคัญในการขับถ่ายของเสีย ไม่มีปริมาณที่เฉพาะเจาะจงให้ดื่มในแต่ละวัน เนื่องจากการสูญเสียน้ำของแต่ละคนแตกต่างกันไปตามภูมิอากาศ สถานการณ์ และสภาพร่างกาย แต่โดยทั่วไปแล้ว การดื่มน้ำ 6–8 แก้วถือว่าดีต่อสุขภาพ แนะนำน้ำที่ผ่านการกรองแล้ววันละ 8–10...

คำแนะนำ และข้อควรระวัง เกี่ยวกับ “น้ำ” (Water)

http://www.nutritionsecrets.com/health-benefits-of-water/ คำแนะนำ แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าสะอาด 8–10 แก้ว พยายามดื่มในช่วงครึ่งชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร โดยเฉพาะผู้ที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก หากคุณมีไข้พยายามดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ และเพื่อช่วยในการขับของเสียออกจากระบบต่าง ๆ ในร่างกายคุณ ดื่มน้ำตามมาก ๆ เมื่อกินยาที่ระคายเคืองกระเพาะอย่างแอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือยาปฏิชีวนะ จะลดอาการระคายเคืองกระเพาะได้ กาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักทำให้ร่างกายขาดน้ำ และไม่ควรนับรวมเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นปริมาณน้ำที่คุณดื่มในแต่ละวัน นมเป็นอาหาร และไม่ควรดื่มนมทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้ http://www.gea.com/global/en/applications/utilities/environment/water_treatment_potable-water-treatment.jsp อย่าดื่มน้ำจากก๊อกน้ำร้อน เพราะน้ำร้อนละลายสารตะกั่วจากท่อออกมาได้มากกว่าน้ำเย็น และในยามเช้า ควรปล่อยให้น้ำไหลทิ้งสักสองสามนาทีก่อนที่จะใช้...